รีเซต

ส่อง 9 หุ้นหลบภัย “รับมือความผันผวน” มีตัวไหนบ้างเช็กที่นี่!

ส่อง 9 หุ้นหลบภัย “รับมือความผันผวน” มีตัวไหนบ้างเช็กที่นี่!
TNN ช่อง16
7 มิถุนายน 2568 ( 09:57 )
18

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดทำการ 3 วัน (4-6 มิ.ย.) ปรับลง 1.1% ไปแตะที่ระดับ 1,132 จุดระหว่างสัปดาห์   แรงกดดันหลักมาจากแรงขายหุ้น DELTA เป็นหลัก ลงแรง 9% จากความ กังวลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมใช้เกณฑ์ CAPPED WEIGHT ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เดือนก.ค. 2568 เป็นต้นไป  ด้วยการจำกัดน้ำหนักหุ้นไม่เกิน 10% ของดัชนีหลักๆ SET50 SET100 ทำให้เกิดการปรับสถานะ ของนักลงทุน  นอกจากนี้แรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงานก็มีส่วนกดดันดัชนีหุ้นไทย 

รวมถึงควันหลง MSCI กดดันกองทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยหนัก 1.1 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าความผันผวนมีโอกาสค่อยๆ ลดลง โดย เริ่มเห็นต่างชาติบางส่วนมีการเข้ามาซื้อผ่าน NVDR ต่อเนื่องประมาณ 6.9 พันล้านบาท โดยปกติหุ้นที่ออกจาก MSCI มีโอกาสปรับตัวขึ้น ได้ดี หลังมีผลบังคับใช้ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ขึ้นเฉลี่ยประมาณ 7-8%

สำหรับหุ้นไทยตั้งแต่ม.ค.-6 มิ.ย.ต่างชาติเทขายไปแล้ว 73,116  ล้านบาท โดยทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าจะเป็นอย่างไร มีปัจจัยบวก-ลบอะไรที่ต้องติดตาม หุ้นตัวไหนที่ยังน่าลงทุน TNN Online พาไปไขคำตอบจากกูรูตลาดทุน

เริ่มจาก “ภราดร  เตียรณปราโมทย์" ผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส   มองว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ายังไร้ทิศทาง จากปัจจัยในประเทศโดยเฉพาะเรื่องการเมืองทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ทั้งในเรื่องการปรับครม. เรื่องศาลฎีกาไต่สวนคดี “ทักษิณ” ส่วนนอกประเทศเป็นเรื่องข้อพิพาทไทย-กัมพูชา  โดยปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายหุ้นไทยช่วงนี้เบาบางไม่ถึง 40,000 ล้านบาท  

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ตแล้วให้รอดูสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุน   และหากสถานการณ์คลี่คลายมีโอกาสที่หุ้นไทยรีบาวด์  แต่ในทางกลับกันถ้าสถานการณ์ต่างๆ ไม่แน่นอนจะทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน ซึ่งการเทรดดิ้งต้องเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ เน้น 2 ธีมหลักคือ 

หุ้นกำไรไตรมาส 2/68 โดดเด่น

  • IVL     ราคาเป้าหมาย 30.00  บาท 
  • PR9    ราคาเป้าหมาย 31.00  บาท  

หุ้นที่ลงมาลึกมีแนวโน้มซื้อกลับคืน 

  • TIDLOR   ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท 
  • BGRIM    ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท
  • ERW       ราคาเป้าหมาย  3.00 บาท    

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามต่างประเทศ คือตัวเลขส่งออกจีนเดือนพ.ค.คาดว่าจะโต 6% จากเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาโต 8.1% ขณะที่นำเข้าคาดว่าติดลบ 0.9% จากเดือนเม.ย.โต 0.2% สาเหตุที่ชะลอตัวลงจากปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน  ส่วนสหรัฐฯ ติดตามตัวเลข CPI  คาดเพิ่มขึ้น 2.5% จากเดิม 2.3% 

ด้านปัจจัยภายในประเทศ เกาะติดการประชุมแพทย์สภาเรื่องปมชั้น 14 ในวันที่ 12 มิ.ย. ส่วนวันที่ 13 มิ.ย.ศาลฏีกาไต่สวนคดี “ทักษิณ” กรณีรักษาตัวที่ชั้น 14  และวันที่ 14ประชุม JBC แก้ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1,100-1,150 จุด 

ฝั่ง "ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์"   AISA, CFTe ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย  บล.กรุงศรี  กล่าวว่า   ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ คาด “ฟื้นตัว” สัญญาณภาคแรงงานสหรัฐฯเริ่มอ่อนลง คาดว่าจะนำมาสู่ภาพเจรจาการค้ากับจีนที่มีโอกาสออกมาในทางบวกมากขึ้น หลังผ่านขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นระหว่างผู้นำ โดยตลาดน่าจะรอติดตามรายละเอียดค่อยๆออกมาเพิ่ม ส่วนภายในตลาดน่าจะเริ่มให้น้ำหนัก  ศาลฏีกาเตรียมไต่สวน+พิจารณาคดีนายทักษิณ ชินวัตร บุคคลใกล้ชิดพรรคเพื่อไทย กรณีถูกกล่าวหาไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษา (คดีชั้น 14) แต่ตลาดปรับสถานะลดความเสี่ยงการเมืองล่วงหน้าตั้งแต่ ปลาย พ.ค. แล้ว ทำให้คาด SET น่าจะพอฟื้นตัวได้ หุ้นนำ คือ China Plays, กลุ่มได้ประโยชน์นโยบายการเงิน EM ยืดหยุ่นกว่าสหรัฐฯ  ให้แนวต้านแรกที่ 1,147 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,156 จุด แนวรับแรกที่ 1,118 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,094 จุด

 ปัจจัยบวก-ลบที่ต้องติดตาม

 -  9 มิ.ย. เงินเฟ้อ CPI พ.ค. ของจีนคาด -0.2%y-y  จากเดิม  -0.1%y-y การค้าระหว่างประเทศ พ.ค. คาดเกินดุล 100 พันล้านหยวน  จากเดิมเกินดุล 96.18 พันล้านหยวน ส่งออกโต +6.3%y-y vs จากเดิมโต +8.1%y-y

-สหรัฐ - จีน คาดมีความชัดเจนมาตรการการค้าที่จะเจรจากันเพิ่มเติมระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้น หลังการเจรจาผู้นำผ่านทางโทรศัพท์มีสัญญาณบวก

 - 11 มิ.ย. เงินเฟ้อ CPI พ.ค. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป +2.5%y-y, 0.2%m-m จากเดิม +2.3%y-y, +0.2%m-m

-13 มิ.ย. ศาลฏีกานัดไต่สวนพิจารณาคดีนายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาล และถูกนำตัวมารักษาตัวที่ชั้น 14  ร.พ. ตำรวจโดยมิชอบ


หุ้นเด่นแนะนำ 

•   WHA         ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท   พัฒนาการนัดเจรจาการค้าสหรัฐฯ - ไทยที่ใกล้เกิดขึ้นเป็นแรงหนุน 

•  AMATA      ราคาเป้าหมาย33.5 บาท พัฒนาการนัดเจรจาการค้าสหรัฐฯ - ไทยที่ใกล้เกิดขึ้นเป็นแรงหนุน

 •  ADVANC    ราคาเป้าหมาย 340 บาท หุ้นเด่นธีมดอกเบี้ยลง+ลุ้น Upside ธุรกิจคอนเท้นท์ จากการเป็นพันธมิตรเจ้าของลิขสิทธิ์ EPL กับ TPL

 

 

ปิดท้าย "วทัญ จิตต์สมนึก" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย มองว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าอาจเห็นการฟื้นตัวได้ จากการที่มีปัจจัยหนุนเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับไทย ล่าสุดมีรายงานว่าไทยกำลังจะเตรียมเจรจากับสหรัฐฯ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีตัวจำกัด Downside ปัจจัยรอติดตามได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯในวันพุธ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,125 -1,160  จุด 

หุ้น Top Pick

  • SAWAD มองว่า Valuation น่าสนใจมากขึ้น ซื้อขายที่ 0.9x PBV’25E และ 6.6x PE’25E สะท้อนความกังวลต่อผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 1Q25 ไปมากพอสมควรแล้ว ราคาหุ้นปรับลดลง 22% หลังรายงานผลการดำเนินงานใน 1Q25 และลดลง 54% YTD   คาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 6.1% ในปี 2025 จากที่ SAWAD มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลสูงขึ้น และไม่จ่ายหุ้นปันผลในปี 2025  โดย คาดกำไรใน 2Q25 แนวโน้มเพิ่มขึ้น QoQ และมองว่ากำไรใน 1Q เป็นระดับต่ำสุดของปี 2025 และ การควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น และแนวโน้มการขาดทุนรถยึดลดลง หลังจากการผ่านกระบวนการทำ Balance sheet cleanup อย่างต่อเนื่องหลายไตรมาส

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง