อาเซียน-จีน จัดประชุมสื่อและองค์กรคลังสมอง ยกระดับความร่วมมือกลุ่มซีกโลกใต้

ผู้แทนสื่อและองค์กรคลังสมองจากจีนและ 10 ชาติสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ อาเซียน ร่วมประชุม China-ASEAN Media and Think Tank Forum ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อหารือและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน
การประชุมสื่อและหน่วยงานคลังสมองจีน-อาเซียนในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ยกระดับความร่วมมืออาเซียน-จีน” และยังมีการเปิดเผยเอกสาร “ฉันทามติมติกัวลาลัมเปอร์” ซึ่งว่าด้วยความร่วมมือด้านสื่อและหน่วยงานคลังสมองระหว่างอาเซียนกับจีนด้วย
ฟาดิเลาะห์ ยูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อเปิดงาน โดยย้ำว่า มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ มุ่งมั่นที่จะผลักดันความเป็นหุ้นส่วนที่เหนียวแน่นระหว่างอาเซียนกับจีน เพื่อนำไปสู่เสถียรภาพของภูมิภาคและความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจโลก
ยูซอฟยังกล่าวด้วยว่าการประชุมนี้จะมีบทบาทสำคัญในการเป็นแพลตฟอร์มที่จะนำเสียงของอาเซียนไปสู่เวทีโลก เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค และขยายความร่วมมือทางทะเลภายใต้ความริเริ่มเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของความริเริ่มแถบและเส้นทางด้วย
ทั้งนี้ China-ASEAN Media and Think Tank Forum จัดขึ้นด้วยความร่วมมือของสำนักข่าวเบอร์นามา ของมาเลเซีย กับสำนักข่าวซินหัวของจีน โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 260 คน จากกว่า 160 องค์กรสื่อและองค์กรคลังสมองทั่วอาเซียนและจีน
นายหลิว ยานสง บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวซินหัวได้กล่าวสุนทรพจน์โดยยก คำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ระบุว่า “เพื่อนบ้านที่ดีจะหวังให้คนอื่นดีด้วยเช่นกัน” และถือเป็นความปรารถนาของประชาชนจีนและในชาติอาเซียนที่ต้องการทำงานและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
หลิวยังย้ำว่า จีนและอาเซียน คือกำลังสำคัญของกลุ่ม Global South หรือกลุ่มซีกโลกใต้ สื่อมวลชนและองค์กรคลังสมองจึงควรช่วยขยายข้อเรียกร้องที่จะร่วมกันสร้างบ้านที่สงบ ปลอดภัย มั่นคง รุ่งเรือง สวยงามและเป็นมิตร ตลอดจนสร้างโมเมนตัมใหม่ๆ เพื่อสร้างประชาคมจีน-อาเซียน ที่มีอนาคตร่วมกัน
ขณะที่นายวอง ชุน ไหว่ ประธาน สำนักข่าวแห่งชาติของมาเลเซีย หรือ เบอร์นามา กล่าวว่า การยกระดับการแลกเปลี่ยนอารยธรรมระหว่างจีนกับอาเซียน จะเป็นตัวอย่างของความร่วมมือและความเป็นเอกภาพระหว่างประเทศกลุ่มซีกโลกใต้ และเขายังเรียกร้องให้มีการร่วมมือกันให้มากขึ้นของสื่อและองค์กรคลังสมองของจีนกับอาเซียนด้วย เช่น การใช้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการทำสื่อ เป็นต้น นอกจากนี้ เขายังเสนอด้วยว่า จะเป็นประโยชน์หากการประชุมนี้จัดขึ้นได้ทุกปี โดยเวียนไปจัดที่แต่ละชาติอาเซียนหรือจีนก็เป็นได้