Huracan Sterrato ลัมโบร์กินีก็ขับออฟโรดได้ ราคา 26.69 ล้านบาท เข้าไทยเพียง 10 คัน
แฟนลัมโบร์กินีอาจเห็น Lamborghini Huracán Sterrato เปิดตัวที่ประเทศอินโดนีเซียไปบ้างแล้ว ล่าสุดลัมโบร์กินีเดินทางมาถึงประเทศไทย พร้อมให้แฟน ๆ กระทิงดุได้สัมผัสคันจริง ในฐานะซูเปอร์คาร์รูปแบบออฟโรด ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยกพื้นสูงขึ้นพร้อมลุย ขับขี่สนุกเร้าใจทั้งในถนนทางเรียบและทางฝุ่น
Huracán Sterrato ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยเต็มที่ โดยการยกรถสูงขึ้น 44 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่น Huracán EVO เพิ่มความกว้างของล้อหน้า 30 มิลลิเมตร และล้อหลัง 34 มิลลิเมตร รวมถึงระบบกันสะเทือนที่ทำงานได้ดีขึ้น พร้อมชุดแต่งคาร์บอน สติ๊กเกอร์ ไฟตกแต่งเพิ่มเติม โดยที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ของแบรนด์ลัมโบร์กินีไว้อย่างเต็มเปี่ยม
Huracán Sterrato มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อน All-wheel drive ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ที่มีอัตราเร่งความเร็วตั้งแต่ 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 260 กม./ชม.
ในด้านการขับขี่ยังรองรับโหมด RALLY สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวที่มีกริพน้อยให้แก่รถยนต์ตระกูล Huracán เป็นครั้งแรก ทำงานควบคู่กับล้อขนาด 19 นิ้ว ซึ่งออกแบบมาพิเศษเพื่อใช้กับยางรุ่น Bridgestone Dueler AT002 สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ รวมถึงโหมด STRADA และ SPORT ที่มีอยู่แล้ว ทำให้การขับขี่สนุกและใช้งานได้ในทุกสภาวะตั้งแต่ถนนในเมืองไปจนถึงเส้นทางออฟโรด
ภายในห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจจากปรัชญา ‘Feel like a pilot’ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนห้องโดยสารของนักบิน พร้อมฟีเจอร์สำหรับการทำงานแบบออฟโรด ทั้งมาตรวัดความลาดเอียงแบบดิจิทัล ระยะการยกตัวและเอียงตัวของรถ เข็มทิศ ไปจนถึงตัวบ่งชี้พิกัดทางภูมิศาสตร์ อีกทั้งยังมีช่องเสียบ USB-C จำนวน 2 ช่องทางด้านหลังระหว่างเบาะที่นั่ง
แม้ระบบปฏิบัติการภายในห้องโดยสารยังไม่สามารถทดสอบได้มากนัก แต่ Huracán Sterrato ยังสามารถทำงานร่วมกับ Amazon Alexa สั่งการด้วยเสียงในการควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของตัวรถ รวมถึงการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน Lamborghini UNICA ในการตรวจสอบความเร็วรถจากระยะไกลและการส่งพิกัดจุดหมายไปยังระบบนำทางได้โดยตรง ตลอดจนเชื่อมต่อผ่าน Apple Watch เพื่อเข้าถึงอัตราการเต้นหัวใจร่วมกับการขับขี่ของตัวเองได้อีกด้วย
Lamborghini Huracán Sterrato สามารถเลือกโทนสีภายนอกได้มากถึง 350 เฉดสี รวมถึงสีของหนัง Alcantara ได้มากกว่า 60 โทน ราคาเริ่มต้น 26.69 ล้านบาท มีจำหน่ายในไทยแค่ 10 คันเท่านั้น และใกล้จองครบจำนวนแล้วด้วยนะ