สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านจุดพีค ?

#หุ้นสหรัฐ #ทันหุ้น – บล.บัวหลวงออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ ในไตรมาส 1/2567 ต่ำกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ 1.6% (ตรงตามคาดการณ์ตลาด) โดยอยู่ที่ 1.3%QoQ (saar) สะท้อนการปรับลดลงของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ซึ่งลดลงเหลือ 2% จาก 2.5% ในครั้งแรก โดยเฉพาะการใช้จ่ายสินค้าคงทนที่หดตัวแรง ( -1.9% เทียบกับ -0.4% และการใช้จ่ายบริการที่เติบโตช้าลง (3.9% เทียบกับ 4%)
นอกจากนี้ การสะสมสินค้าคงคลังภาคเอกชนยังคงหดตัว (-0.45% เทียบกับ -0.35%) อย่างไรก็ดี มีการปรับเพิ่มประมาณการการลงทุนภาคเอกชนที่มิใช่ที่อยู่อาศัยขึ้น (3.3% เทียบกับ 2.9%) แม้การลงทุนในเครื่องจักรจะเติบโตช้าลง (0.3% เทียบกับ 2.1%) แต่การลงทุนในที่อยู่อาศัยกลับปรับตัวสูงขึ้น (15.4% เทียบกับ 13.9%)การใช้จ่ายภาครัฐยังคงขยายตัวเล็กน้อย (1.3% เทียบกับ 1.2%) ขณะที่ทั้งการส่งออก (1.2% เทียบกับ 0.9%) และการนำเข้า (7.7% เทียบกับ 7.2%) ต่างก็เพิ่มขึ้น
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดลง ซึ่งวัดโดยดัชนีราคาค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE Price Index) อยู่ที่ 3.6% ต่อปีในไตรมาส 1 ซึ่ง ลดลง จากรายงานเบื้องต้นที่ 3.7%
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอลงเล็กน้อย จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 3,000 คน อยู่ที่ 219,000 คน สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 พฤษภาคม สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 216,000 คน และเกินกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 218,000 คน สัญญาณนี้ชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจเริ่มชะลอลงเล็กน้อย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานหลังข้อมูลเศรษฐกิจชะลอ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันพฤหัสบดีในแดนลบ หลังนักลงทุนรับรู้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากกว่าคาดการณ์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดตลาดที่ระดับ 4.548% ลดลงจาก 4.616% ในวันก่อนหน้า ตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในดือนกันยายน เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 52% จากเดิมที่ 48.7% ก่อนหน้า ตามข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group
ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังตัวเลขเศรษฐกิจแผ่ว ... สวนทางกับปริมาณคงคลังที่ลดลง รายงานสถานะปิโตรเลียมของสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า ปริมาณคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง -4.16 ล้านบาร์เรลเทียบกับการเพิ่มขึ้น +1.82 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน และคาดการณ์ตลาดที่ -1.95 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ
ภาคการผลิตไทยกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 18 เดือน หลังส่งออกฟื้น และฐานต่ำ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไทย (MPI) ขยายตัว 3.43% YoY ในเดือน เม.ย. กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกหลังหดตัวต่อเนื่อง 18 เดือน และดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะติดลบ - 1.1% YoY โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่โตดี ได้แก่ อาหาร, เครื่องดื่ม, ยาง และ อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่กลุ่มที่ชะลอตัวคือคอมพิวเตอร์ ยานยนต์และเหล็ก
บล.ลิเบอร์เรเตอร์ ระบุว่า คืนนี้แนะติดตามตัวเลขสำคัญ คือ US Core PCE เดือน เม.ย. ซึ่งคาดที่ +2.8%y-y หากต่ำกว่านี้จะเป็นแรงหนุนบวกต่อตลาดมากยิ่งขึ้น