รีเซต

เคจีไอส่อง Q2/68 หุ้น KBANK “ไปต่อ” หรือ “พักก่อน”?

เคจีไอส่อง Q2/68 หุ้น KBANK “ไปต่อ” หรือ “พักก่อน”?
ทันหุ้น
1 กรกฎาคม 2568 ( 10:37 )
8

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ สแกนหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK คาดว่ากำไร Q2/68F จะอยู่ที่ 1.31 หมื่นล้านบาท (-5% QoQ +4% YoY) และ +3% ในงวด 1H68F โดยกำไรทีลดลง QoQ สะท้อนถึงกำไรจากการลงทุน และ NIM ที่ลดลง ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจาก credit cost และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ซึ่งหักล้างไปกับ NIM ที่ลดลง ทั้งนี้ เนื่องจาก GDP เผชิญแรงกดดันในขาลง การที่กำไรในงวด 1H68F คิดเป็น 55% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราน่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการกำไรเต็มปีได้ ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 168 บาท (PBV ที่ 0.7x)

สินเชื่อหดตัวลง ในขณะที่ NIM ถูกกดดัน พอร์ตสินเชื่อทุกกลุ่มของ KBANK ยังคงลดลงประมาณ 1% QYD และ 3% YTD แต่สินทรัพย์ที่สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่คือการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 7% QYD และ 23% YTD ในขณะเดียวกัน สถานะปล่อยกู้ในตลาดเงินซึ่งให้ yield ต่ำเพิ่มขึ้น 7% QTD และ 8% YTD ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ย และการโยกสินทรัพย์ไปยังสินทรัพย์ yield ต่ำจะกดดันให้ yield สินเชื่อ และ margin ลดลงไปอีกใน Q2/68F โดยเราคาดว่าจะลดลง 7bps QoQ และ 35bps YoY เป็น 3.34%

 

กำไรการลงทุนที่แข็งแกร่งจะหักล้าง NII ที่ลดลง ในไตรมาส 1/68 KBANK บันทึกกำไรจากการลงทุนสูงถึง 4.1 พันล้านบาท (+31% QoQ, +29% YoY) จากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มลดลงตามอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งเกินพอที่จะหักล้างกับ NIM ที่หดตัวลง ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงลดลงอีก และ ธนาคารมีสถานะลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้น QTD ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าธนาคารน่าจะบันทึกกำไรจากการลงทุนก้อนใหญ่ใน Q2/68F อีก 3.4 พันล้านบาท ซึ่งจะไปหักล้างกับ NII ที่ลดลงเพราะถูกกดดันจาก NIM

 

คาดกำไร Q2/68F ที่ 1.31 หมื่นลบ. (-5% QoQ, +4% YoY), +3% ในงวด 1H68F ประมาณการกำไรของฝ่ายวิจัยสะท้อนถึง 1.) สินเชื่อที่หดตัว และ NIM ที่ลดลง ซึ่งกดดันให้ NII ลดลง 2% QoQ และ 7% YoY ใน Q2/68F 2.) รายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น 1% QoQ และ 5% YoY 3.) กำไรจากการลงทุนที่แข็งแกร่ง 3.4 พันลบ. แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน 18% QoQ ในขณะที่เพิ่มขึ้น 7% YoY นอกจากนี้ การที่ธนาคารตั้งใจจะเพิ่มสินทรัพย์ที่ yield ต่ำ และความเสี่ยงต่ำ ฝ่ายวิจัยจึงใช้สมมติฐาน NPL ที่ +2% QoQ และ ใกล้ศูนย์ YoY โดย NPL ที่ชะลอตัวน่าจะสะท้อนถึงแคมเปญ “คุณสู้ เราช่วย” ของรัฐบาลที่เปิดช่องให้ธนาคารบริหารจัดการ NPL และคชจ.สำรองยังทรงตัว ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากประมาณการกำไรใน Q2/68F กำไรในงวด 1H68F จะคิดเป็น 55% ของประมาณการกำไรเต็มปีของฝ่ายวิจัย

 

คงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 168 บ. การปรับเปลี่ยนโครงสร้างสินทรัพย์ (asset mix) โดยหันไปเน้นสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำบ่งบอกว่า KBANK กำลังพยายามอย่างหนักที่จะบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์เพื่อลด credit cost ให้ได้ตามเป้า 1.4-1.6% ในปี 2568F ทั้งนี้ เนื่องจาก GDP เผชิญแรงกดดันในขาลง การที่กำไรในงวด 1H68F คิดเป็น 55% ของประมาณการกำไรเต็มปีของฝ่ายวิจัยน่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการกำไรเต็มปีได้ ดังนั้น จึงยังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 168 บาท (PBV ที่ 0.7x)

 

Risks : NPLs และ credit cost สูงกว่าที่วางแผนเอาไว้, NIM ถูกกดดัน

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง