สปสช.วางแผนแจกเอทีเค ปชช. 8.5 ล้านชุด พร้อมติดตามผล ส่อเลิกซื้อแจกทั่วไป!
วันนี้ (29 สิงหาคม 2564) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ได้รับรายงานว่า องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะมีการลงนามจัดซื้อชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ชนิดตรวจด้วยตัวเอง จำนวน 8.5 ล้านชุด วงเงิน 1,014 ล้านบาท ตามโครงการพิเศษของ สปสช. กับบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลในราคาต่ำที่สุดชุดละ 70 บาท เมื่อมีการลงนามและส่งมอบเอทีเคแล้ว คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีการหารือและวางแผนการกระจายไปให้กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะมีการสรุปพื้นที่เป้าหมายกันอีกครั้ง
นพ.จเด็จ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า จะเน้นที่ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ชุมชนแออัด ตลาด 2.สถานพยาบาลเพื่อแจกให้ประชาชน และ 3.ร้านขายยา หรือคลินิก หรือห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เป็นต้น โดยให้มีการผูกโยงกับสถานพยาบาลเพื่อดูแลกรณีหากตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ต่อไป และขณะนี้กำลังร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการจัดทำข้อมูลเพื่อระบุตัวผู้รับชุดตรวจเอทีเคไปตรวจเองที่บ้าน ผลเป็นอย่างไร อาจจะเข้าระบบ “เป๋าตังค์” เป็นต้น “รวมถึงมีการพิจารณาว่า หากเป็นกลุ่มเสี่ยงจริงๆ อาจจะให้มีไรด์เดอร์ หรือผู้นำส่งชุดตรวจไปให้ที่บ้านแทนการให้กลุ่มเสี่ยงออกมานอกบ้าน คาดว่าประมาณ 2 วันนี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้” นพ.จเด็จ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการใช้เอทีเคล็อต 8.5 ล้านชุดแล้ว จะมีการพิจารณาจัดซื้อเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช.มีการตั้งคณะทำงานติดตามประเมินผลของการใช้ชุดตรวจเอทีเค 8.5 ล้านชุด ทั้งในส่วนของประชาชนใช้ถูกต้องหรือไม่ ใช้ได้หรือไม่ ได้ ประสิทธิผลเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เดิม สปสช. ก็มีการพิจารณาว่าเอทีเค 8.5 ล้านชุดนี้ เป็นโครงการนำร่อง แล้วเมื่อผลการประเมินออกมาว่าดี อาจจะมีการซื้อแจกประชาชนเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทางกรมบัญชีกลางมีการส่งหนังสือถึงหน่วยงานราชการ ระบุว่าสามารถซื้อชุดตรวจเอทีเคได้เอง ดังนั้น ในส่วนของ สปสช.หากพิจารณาหลังจากนี้ อาจจะเป็นการจัดหาให้เฉพาะกับกลุ่มเปราะบางที่เข้าไม่ถึงชุดตรวจเอทีเคเท่านั้น ซึ่งต้องมีการหารือกันอีกครั้ง