‘มมส’ ก้าวสู่ปีแห่งงานวิจัย โชว์ ‘ครีมกันแดดโปรตีนไหม’ ป้องUVB-ชะลอความชราก่อนวัย
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดตัวผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยชิ้นใหม่ “ครีมกันแดดโปรตีนไหมสีชมพู SILK PROTEIN HYBRID PLUS ANTI-OXIDANT SPF 50 PA+++” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากงานวิจัย นำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดดที่ให้ประโยชน์ครบครัน ทั้งปกป้อง บำรุง ชะลอริ้วรอย
รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.อนงค์ฤทธิ์ แข็งแรง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วิจัยและนวัตกรรม นางฉวีวรรณ อรรคะเศรษฐัง ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการวิจัยและบริการวิชาการ นายสุวัฒน์ พรมมา ฝ่ายเลี้ยงไหม และน.ส.กานต์สุภัค นพรัตน์ เจ้าหน้าที่วิจัยผู้พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ครีมกันแดดโปรตีนไหมสีชมพู” SILK PROTEIN HYBRID PLUS ANTI-OXIDANT SPF 50 PA+++ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องนิทรรศการศูนย์ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมไหม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ซึ่งผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดโปรตีนไหมสีชมพู มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ ประกอบด้วย Hydrolyzed sericin จากรังไหมสีชมพูโอลด์โรส, Sunflower oil, สกัดจากธรรมชาติจากพืช Knotgrass และ Marrubium vulgare สกัดจากธรรมชาติจากต้นไวท์ฮอร์ฮาวด์ ปลอดภัย ไม่แพ้ มีประสิทธิภาพในการกันแดดได้อย่างเห็นผล
น.ส.กานต์สุภัค ผู้คิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “ครีมกันแดดโปรตีนไหมสีชมพู” ภายใต้แบรนด์ BEAUTY BY SILK เป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทั่วไป จุดกำเนิดมาจากความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางวิชาการและความตั้งใจจริง ในการเพิ่มมูลค่านวัตกรรมของไทยอย่างยั่งยืน ด้วยคุณสมบัติทางชีวภาพที่มีความโดดเด่นของรังไหมไทย จึงก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์กันแดด ที่มีส่วนผสมของโปรตีนไหมสีชมพู SPF 50 PA+++ สูตรใหม่เป็นสูตร HYBRID sunscreen รวม 2 นวัตกรรมระหว่าง Physical sunscreen และ Chemical sunscreen รวมไปถึงสารสกัดที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการชราและมีผลลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยไม่เกิดการแพ้หรือการระคายเคือง มีประสิทธิภาพในการกันแดดได้อย่างเห็นผล โดยมีส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
1.สาร Hydrolyzed sericin เป็นโปรตีนที่ได้สกัดจากรังไหมสีชมพูโอลด์โรส ผ่านกระบวนการ Hydrolysis เพื่อให้สามารถดูดซึมเข้าผิวได้ง่าย จุดเด่นของสาร Sericin คือ สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนังและฝ้าแดด ยับยั้งการสร้างเมลานินที่เป็นสาเหตุของสีผิวไม่สม่ำเสมอ รักษาความชุ่มชื่นแก่ผิว มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบ นอกจากนี้ จุดเด่นคือมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระทำให้ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
2.สารสกัด Sunflower oil อุดมไปด้วย Vitamin E ที่มีความเข้มข้นสูงมาก มีหน้าที่ช่วยในการกำจัดอนุมูลอิสระทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ มีส่วนผสมของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดียว และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ความเข้มข้นสูงมาก จึงช่วยปกป้องผิวภายนอกให้นุ่มลื่น ช่วยให้ผิวหนังอ่อนเยาว์เนียนนุ่มน่าสัมผัส
3.สารสกัด Polygonum Aviculare สกัดจากธรรมชาติจากพืช Knotgrass เป็นสารออกฤทธิ์ธรรมชาติรูปแบบพิเศษ มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีและรังสีอินฟราเรด สามารถช่วยลดความร้อนที่จะผ่านไปถึงผิวหนัง โดยป้องกันการถูกทำลายของชั้นหนังแท้ ตลอดจนลดการทำงานของกระบวนสังเคราะห์ของเอนไซม์ MMP (Matrix metalloproteinase) ยับยั้งกิจกรรมของ Cathepsin-G ปกป้อง Tropoelastin และ Fibrillin ของผิวหนังส่งผลให้ผิวดูเต่งตึง สร้างความแข็งแรงให้กับผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย ชะลอความชราก่อนวัย ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
4.สารสกัด Marrubium vulgare สกัดจากธรรมชาติจากต้นไวท์ฮอร์ฮาวด์ มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านมลภาวะ (Anti-pollution) ช่วยเป็นเกราะป้องกันผิว ช่วยต่อสู้กับมลภาวะที่มองเห็นและมองไม่เห็นที่เป็นอันตรายต่อผิว ช่วยซ่อมแซมกระบวนการสร้างพลังงานของเซลล์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ครีมกันแดดโปรตีนไหมสีชมพู SPF 50 PA+++ มีจุดเด่นคือ มีฤทธิ์ปกป้องรังสี UVB ยับยั้งการสร้างเมลานินอย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย เป็นสินค้าที่ได้คุณภาพ เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วเห็นผล ผลิตจากโรงงานมาตรฐานฮาลาล และ ISO22716 หรือ Global GMP มาตรฐานสากลระดับโลกที่ได้รับการรับรองจากประเทศเยอรมัน เรามีระบบควบคุมคุณภาพที่มีมาตรฐาน เป็นระบบ สามารถตรวจย้อนกลับได้ ภายใต้แนวทางของการผลิตที่ดี (GMP)
รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคามมุ่งเน้นคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ให้สอดคล้องตามนโยบายการสร้างรายได้ และให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและสร้างงานวิจัยเพิ่มมากขึ้น เพื่อยกระดับมหาวิทยาลัยมหาสารคามก้าวสู่ปีแห่งงานวิจัย โดยไหมสีชมพูโอลด์โรส เป็นการพัฒนาสายพันธุ์จากทีมเพาะเลี้ยงไหมและนักวิจัย ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่แข็งแรง พร้อมที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งการเลี้ยงไหมของทางศูนย์นวัตกรรมไหม เป็นการเลี้ยงในระบบปิด ใช้ใบหม่อนเป็นอาหาร ซึ่งใบหม่อนทางศูนย์ก็ปลูกเอง แต่ละรุ่นจะมีการเลี้ยงไหมครั้งประมาณ 80,000 ตัว และใน 1 ปี จะเลี้ยงทั้งหมด 5 รุ่น ในการเลี้ยงแต่ละรุ่นก็จะมีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่นไหมสีชมพูโอลด์โรส เป็นต้น ซึ่งนอกจากงานวิจัยจากไหมแล้ว มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังมีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาให้มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางต่อไป
ครีมกันแดดโปรตีนไหมสีชมพู SILK PROTEIN HYBRID PLUS ANTI-OXIDANT SPF 50 PA+++ ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามคิดค้นและพัฒนาขึ้น เทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำ พิเศษเปิดตัวช่วงโปรโมชั่น ราคากล่องละ 490 บาท (ปริมาณ 20 กรัม) จากราคาปกติ 690 บาท จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และสั่งซื้อได้ที่ศูนย์ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมไหม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม