สมาคมยาสูบวอนรัฐชะลอขึ้นภาษีบุหรี่ หวั่นของเถื่อนทะลัก ช่วงศก.ซมพิษโควิด-19
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าส่งผลกระทบอย่างมากต่อร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศหลายแสนราย
“เศรษฐกิจตอนนี้ ผู้บริโภคหลายล้านคนขาดรายได้ แม้บางรายได้เงินช่วยเหลือจากรัฐ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทำให้พวกเขาขาดความเชื่อมั่นในอนาคต สอดคล้องกับรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ชี้ว่าผู้บริโภคยังขาดความมั่นใจในรายได้ในอนาคตต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังอย่างมากในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้ส่งผลกระทบถึงร้านค้าที่มีรายได้จากการขายสินค้าให้ผู้บริโภค” นางวราภรณ์ กล่าวและว่า ข้อมูลประมาณการณ์โดยสมาคมค้าปลีกชี้ว่ามูลค่ายอดขายหายไปจากระบบการบริโภคกว่า 2 แสนล้านบาทต่อเดือน ซึ่งร้านค้าโชห่วยก็เดือดร้อนไม่แพ้กว่าร้านค้าห้างใหญ่ๆ และอาจเดือดร้อนกว่าเพราะทุนน้อย
“สมาคมฯ อยากขอร้องให้รัฐบาลไม่ลืมร้านค้าโชห่วย สมาชิกรายหลายยังวิตกกังวลกับภาวะเศรษฐกิจต่อจากนี้ เพราะเชื่อว่าแม้จะหมดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนอาจจะถึงสิ้นปีกว่าการซื้อขายจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม ฉะนั้นรัฐบาลยังไม่ควรออกมาตรการอะไรมาซ้ำเติมปัญหารายได้ปากท้องของร้านค้าเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงขอให้ชะลอการขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40% ที่กำหนดในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ออกไปก่อน เพราะหากขึ้นภาษีในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อว่าจะสนับสนุนให้มีการค้าบุหรี่เถื่อนหนีภาษีกันมากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีคนตกงานกันมากขึ้น ขณะที่รายได้จากการขายบุหรี่ถูกกฎหมายจะทรุดหนักทำให้ร้านค้าที่สุจริตเดือดร้อน” นางวราภรณ์กล่าว
นางผกาพร สายแก้ว เจ้าของร้านค้าจากอ.หาดใหญ่ จ. สงขลา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ร้านค้าปลีกยังพออยู่พอขายได้ เพราะห้างใหญ่ๆ ปิดกันหมด คนมาซื้อของที่ร้านแทน แต่ซื้อของกินของใช้เท่าที่จำเป็น เทียบช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีที่ผ่านมาร้านค้าขายดี นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยคนต่างชาติเคยมาเที่ยวมาซื้อของกัน แต่ปีนี้ขายไม่ได้ หวังว่าหมดโควิด-19 แล้ว สถานการณ์การค้าขายจะดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ อยากให้รัฐบาลตรึงราคาสินค้าไว้ก่อน อย่าเพิ่งเร่งเก็บภาษีอะไรเพิ่ม เพราะถ้าราคาของแพงขึ้น คนก็จะไม่กล้าซื้อ