"สมศักดิ์" เปิดทาง "หมอพื้นบ้าน" รับค่านวดรักษาได้ ชูซอฟต์พาวเวอร์เด่น

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร “ครู ก นวดไทยยืดเหยียดเฉพาะทาง 7 ด้าน” โดยการนวดไทยเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ที่เป็นศาสตร์ทางเลือกในการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ และเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่จะยกระดับการนวดไทย ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศและผลักดันการนวดไทยเข้าสู่ตลาดโลกเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ ดังนั้น การที่วิทยาลัยการนวดไทยแห่งประเทศไทย  จัดให้มีการอบรมหลักสูตร “ครู ก นวดไทย เฉพาะทาง 7 กลุ่มอาการ” จำนวน 1,000 คน ในครั้งนี้เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายการอบรม ให้เป็น 20,000 คน ในปีนี้ เชื่อว่า ผู้เข้าร่วมอบรมจะสามารถนำความรู้ และทักษะที่ได้รับ ไปใช้ยกระดับอาชีพการนวดไทย ให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งในประเทศ และระดับสากล สิ่งที่พยายามดำเนินการคือพยายามอัพเกรดบุคคลให้มีรายได้สูงขึ้น การที่กระทรวงสาธารณสุขกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกทำอยู่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถอัพเกรด ให้เป็นหมอนวดที่มีความสามารถมีสกิล เฉพาะทาง 7 กลุ่มอาการ สามารถทำมาหากินได้เป็นการยกระดับรายได้

“นอกจากนี้มีหลายคนที่พยายาม สอบถามว่าอะไรมันผิดกฎหมาย อะไรมันถูกกฎหมาย  ดังนั้นอะไรที่มันยังไม่ถูกเดี๋ยวจะปรับแก้ให้หมด อย่างเช่น การรับค่าจ้างการ รับค่านวด หรือการรับค่ารักษา เรื่องช่วยบำบัดรักษาโรค ได้รับการยกเว้นให้ทำการรักษาได้ 3 กลุ่ม 1.คนทำงานในภาครัฐ 31(4) 2.บุคคลทำงานในสถานพยาบาลเอกชน 31(5) 3.หมอพื้นบ้านที่ได้รับการรับรอง  31(7) ซึ่งหมอพื้นบ้านไม่สามารถรับค่ารักษาได้ เดี๋ยวผมจะไปทำให้ ผมจะไปออกระเบียบกระทรวง ซึ่งได้ศึกษาดูแล้วขอให้ท่านได้สบายใจทำงานได้ภายใต้ระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนด”นายสมศักดิ์กล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรายได้จากการนวด เมื่อคำนวณดูแล้ว 1.9 แสนล้านบาท ถ้าเรามีสกิล ที่เป็นเฉพาะทางได้ 20,000 คน เราตั้งใจว่าจะสร้างให้ได้ให้เกิดความชัดเจน เราจะต้องทำให้เป็นชิ้นเป็นอัน เราต้องการสร้างเศรษฐกิจ มั่นใจว่าในเรื่องของการนวด เป็นหนึ่งในซอฟพาวเวอร์ เราจะนำเอารายได้ที่เราได้ตรงนี้มาโชว์ ต้องช่วยคนที่อยู่ข้างหลังที่เขามี 150 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยนั้นเข้ามาสู่การเป็นเฉพาะทางต่างๆ เพื่อการดำเนินการให้ครบถ้วนและถูกต้องแล้วก็เป็นที่ยอมรับของสากลต่อไป