รีเซต

'สังขละบุรี' เล็งชงทบทวนมติห้ามเด็ก 'เทินหม้อ-ขายดอกไม้-มัคคุกเทศก์น้อย' บนสะพานมอญ

'สังขละบุรี' เล็งชงทบทวนมติห้ามเด็ก 'เทินหม้อ-ขายดอกไม้-มัคคุกเทศก์น้อย' บนสะพานมอญ
มติชน
1 พฤศจิกายน 2565 ( 13:50 )
61

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จ.กาญจนบุรี นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี นายดำรง สุภาพัฒน์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลวังกะ เดินทางลงพื้นที่สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือ สะพานมอญ และชุมชนบ้านวังกะ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสังขละบุรี เพื่อพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว ผู้ประกอบการร้านค้า ประชาชน และผู้ปกครองเด็ก เพื่อนำมาเป็นข้อมูลที่จะนำไปหารือกับเทศบาลตำบลวังกะ คณะอนุกรรมการจัดระเบียบบริเวณโดยรอบสะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานไม้) และจัดระเบียบชุมชน ซึ่งประกอบด้วยผู้นำชุมชน และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอำเภอสังขละบุรี เพื่อเตรียมทบทวนคำสั่งห้ามเด็กทำกิจกรรม (เทินหม้อ ประแป้ง ขายดอกไม้ และมักคุเทศก์น้อย) บนสะพานฯ

 

ทั้งนี้หลังจากที่ เทศบาลตำบลวังกะ โดยคณะอนุกรรมการจัดระเบียบบริเวณโดยรอบสะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานไม้) และจัดระเบียบชมชน มีมติห้ามเด็กทำกิจกรรมหารายได้บนสะพานฯ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (1 พ.ย.65) ตามที่มีการเสนอข่าวตามสื่อต่างๆ โดยพบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเด็กกลุ่มนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอสังขละบุรี

 

ซึ่งก่อนเดินทางกลับ นายสุทธิพร ศิวเวพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ได้ข้อมูลจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งข้อมูลด้านบวกและด้านลบ ทำให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงรอบด้าน ซึ่งต้องยอมรับว่าเด็กๆ เป็นสีสันหนึ่งของสังขละบุรี ที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยว แม้บางครั้งจะมีปัญหาบ้างแต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่สามารถจัดการแก้ไขและพูดคุยได้ ซึ่งการแก้ปัญหาต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่สั่งห้ามเลย และควรเปิดโอกาสให้ภาคประชาสังคมและทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อเกิดผลดีกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอำเภอสังขละบุรี

 

โดยส่วนตัวเห็นว่าจากนี้ไปต้องมีการพูดคุย วางมาตรการและกฎเกณฑ์ เรื่องเด็กบนสะพานฯ ให้ชัดเจน เช่น มีการกำหนดอายุของเด็กที่จะมาทำกิจกรรม เช่น ต้องมีอายุตั้งแต่ 8-13 ปี ช่วงเวลาในการทำกิจกรรมบนสะพาน ยกตัวอย่างในช่วงเช้า อนุญาตให้มาในห้วงเวลา 05.30-07.00 น. เท่านั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็ก ส่วนตอนเย็นหลังเลิกเรียนก็ไม่ควรเกินเวลา 18.30-19.00 น. เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ หากเป็นวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) ก็พิจารณาตามความเหมาะสม ควรมีการจัดการอบรมให้ความรู้แก่เด็กๆ เหล่านี้ ทุก 2-3 เดือน หรือทุกครั้งที่เกิดปัญหา และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการร้องเรียน และดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัยให้เด็ก

 

ส่วนการที่มีสื่อบางส่วนนำเสนอข่าวว่ามีมาเฟียเด็กเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์บนสะพาน ตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างยืนยันว่าไม่เคยพบ เช่นเดียวกับเรื่องเด็กต่างด้าวเข้ามาหารายได้บนสะพาน ขอยืนยืนว่าเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กที่นี่ มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านวังกะและบริเวณซ.วัดศรีสุวรรณ

 

อย่างไรก็ตามตนจะเตรียมนำเสนอข้อมูล ความคิดเห็น ต่อคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดประชุมเพื่อทบทวนคำสั่งห้ามเด็กทำกิจกรรมบนสะพานฯ ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อลดผลกระทบและความเดือดร้อนของเด็ก

 

ขณะที่นางธนกร จานแก้ว ชาวอำเภอสังขละบุรี ที่มาออกกำลังกายและถ่ายภาพเด็กๆ บนสะพานฯ เพื่อโพสต์ในเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า รู้สึกใจหายที่วันนี้ไม่มีเด็กๆ บนสะพานฯ โดยส่วนตัวมองว่าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการแก้ไขปัญหา ควรค่อยเป็นค่อยไป เพราะในมุมที่ดีของเด็กๆ ก็มี ส่วนมุมไหนไม่ดีก็ค่อยแก้ไขปรับปรุง ซึ่งน่าจะเป็นการแก้ไขที่ดีกว่าการประกาศห้าม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณสะพาน และชุมชนบ้านวังกะ วันนี้แม้จะไม่ใช่วันหยุดแต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง ประมาณ 300-400 คน เดินทางมาท่องเที่ยวบนสะพาน โดยนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวและเคยทำกิจกรรมกับเด็ก ต่างแปลกใจที่ไม่เห็นเด็กๆ บนสะพาน และสอบถามเหตุการณ์กับเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน

อ่าน : โซเชียลค้าน! ห้าม ‘เด็กประแป้ง-เทินหม้อ’ บนสะพานมอญ ดีเดย์ 1 พ.ย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง