เที่ยวสังขละบุรี สุดเหงา ไร้เด็กเทินหม้อ-ขายดอกไม้ บนสะพานมอญ

วันนี้ 5 พ.ย.65 ที่บริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ยังคงไร้เงาเด็กๆ ที่มาทำกิจกรรม (เทินหม้อ ปะแป้ง ขายดอกไม้ เล่าเรื่องสะพานฯ) บนสะพานฯ ขณะที่บรรยากาศบนสะพานเงียบเหงา นักท่องเที่ยวที่มาทำบุญตักบาตรและถ่ายรูปบนสะพาน ค่อนข้างบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เหมือนช่วงก่อนที่จะมีการสั่งห้ามเด็กทำกิจกรรมบนสะพานฯ

ด้านผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวรายหนึ่งฝั่งท่าเรือเทศบาลตำบลวังกะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง อาจเป็นผลมาจากการที่โรงเรียนเพิ่งจะเปิดเทอม ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเตรียมเงินไปใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลาน คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับการที่ไม่มีเด็กมาทำกิจกรรมบนสะพานฯ เนื่องการมีเด็กมาหารายได้บนสะพานตนมองว่ามีทั้งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ ขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบ

ขณะที่ในเพจสังขละบุรี ซึ่งเป็นเพจดังที่มีผู้ติดตาม 5.7 หมื่นคน เป็นเพจดังที่นำเสนอเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี รวมทั้งการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวในอำเภอสังขละบุรี โดยวันนี้ได้มีการรวมรวบข้อมูลเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวมาให้ผู้ติดตามได้รับรู้พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งปรากฏว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เข้ามาแสดงความคิดเห็นและส่งรูปถ่ายที่เคยถ่ายคู่กับเด็ก ในอดีตเมื่อครั้งที่เดินทางมาท่องเที่ยวบนสะพานฯ

โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการจัดระเบียบสะพานไม้อุตตมานุสรณ์และชุมชนบ้านวังกะ ที่เลือกวิธีแก้ปัญหาข้อร้องเรียนของนักท่องเที่ยว ด้วยการไม่อนุญาตให้เด็กทำกิจกรรมหารายได้บนสะพานฯ นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ประกาศยกเลิกทริปการเดินทางมาท่องเที่ยวสังขละบุรี ภายหลังจากที่รู้ข่าวว่าไม่มีเด็กบนสะพาน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นสีสันและเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวของสังขละบุรี ที่ไม่สามารถหาได้ในสถานที่ท่องเที่ยวอื่น พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตามภายหลังเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้น ทางเทศบาลตำบลวังกะ ได้กลับมาทบทวนคำสั่งและเตรียมที่จะจัดการอบรมให้ความรู้ในเรื่องมารยาท และการป้องกันตนเองจากการถูกละเมิด การดูแลสุขภาพให้เด็กรวมทั้งผู้ปกครอง นอกจากนี้จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านคุ้มครองเด็กในพื้นที่ เพื่อวางกฎเกณฑ์ในเรื่องอายุ ระยะเวลา ที่จะให้เด็กมาทำกิจกรรมบนสะพาน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและคุ้มครองเด็กขณะทำกิจกรรมบนสะพาน เพื่อเตรียมให้เด็กได้กลับคืนสู่สะพานฯ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 นี้