SHR ลั่นธุรกิจโรงแรมบูม นทท.ไทย-เทศดันพอร์ต

#SHR #ทันหุ้น – SHR ชี้แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2568 ปรับตัวดีขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง High Season มั่นใจทั้งปี 2568 รายได้เฉลี่ยต่อห้องโต 15% จากทั้งโรงแรมภายในประเทศไทยและในต่างประเทศ ขณะที่มองว่าแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาระหว่างญี่ปุ่นกับจีน และความสัมพันธ์ไทยกับจีนที่ดีขึ้น

นายอิศรินทร์  ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 จะมีการเติบโตดีขึ้นจากไตรมาส 3/2568 เนื่องจากประเทศไทยและมัลดีฟส์ เริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ซึ่งบริษัทคาดว่าทั้งปี 2568 รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) จะเติบโตประมาณ 15% YoY หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

โดยในประเทศไทยเดือนธันวาคมจะเข้าสู่ช่วง Peak Season ของโรงแรมทั้งในส่วนของเกาะพีพีและภูเก็ต ซึ่งข้อมูล On the Book หรือยอดจองห้องพัก แสดงให้เห็นว่ารายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ค่อนข้างสูง และคาดว่าจะดีทั้งในแง่ของรายงานอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR)

@ธุรกิจโรงแรมตปท.โตต่อ

ในส่วนของมัลดีฟส์คาดว่าจะมีการเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 5% การเติบโตส่วนใหญ่จะมาจาก Occupancy โดยเฉพาะช่วงสิ้นปี มีการเห็นยอดจองในช่วงสิ้นปีทั้ง Biyadhoo และ SAii Lagoon Maldives เข้ามาค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ SAii Lagoon Maldives คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ ในช่วงเดือนธันวาคมและไตรมาส 1/2569

ขณะที่มอริเชียสไตรมาส 4 ยังถือว่าเป็นช่วง High Season แนวโน้มยังเป็นไปได้ดีตามคาดการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Occupancy ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมากถึง 87% แสดงถึงการเติบโตที่ดีในช่วงสิ้นปี ทางด้านฟิจิ แม้ว่าจะพ้นช่วง Peak Season ในไตรมาส 3 ไปแล้ว แต่ไตรมาส4 ยังคงเห็นโมเมนตัมที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนสหราชอาณาจักร คาดว่าผลงานจะอ่อนตัวลงจากการพ้นช่วง Peak Season ใน Summer แต่มองว่าในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เช่น วันขอบคุณพระเจ้า คริสต์มาส คาดว่าจะทำให้มีรายได้จากส่วนของ F&B และ Event เข้ามาค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ The Grand Hotel Leicester ซึ่งถูกปิดปรับปรุง จะสามารถ เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ใหม่ ได้ภายใน เดือนธันวาคมปีนี้ เพื่อต้อนรับแขกในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่

@ลุ้นท่องเที่ยวจีนกลับมา

ทั้งนี้ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศไทย แม้ว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการหายไปของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากมีสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนน้อยมากไม่ถึง 5% แต่ในภาพรวมมองว่าปัญหาความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นกับจีน จะเป็นผลบวกกับประเทศไทย เพราะคาดว่านักท่องเที่ยวจีนอาจลดการเดินทางไปญี่ปุ่นแล้วเดินทางมาไทยมากขึ้น รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีน ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด