จ่าสิบเอกบุกยิง 2 ผัวเมียกลางดึก ดับ 1 สาหัส 1 ถูกรวบตัวได้แต่ยังให้การปฏิเสธ
จ่าสิบเอกบุกยิง 2 ผัวเมียกลางดึก ดับ 1 สาหัส 1 ถูกรวบตัวได้แต่ยังให้การปฏิเสธ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สุรินทร์ เกยมาศ พงส.สภ.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรีบรุดเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ภายในห้องนอนพบศพ นายเจษฎา ทรายทอง อายุ 23 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอกจำนวน 3 นัด เสียชีวิตคาที่
และใกล้กันพบร่างของ น.ส.กรรณิการ์ ผลยะมา อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาว ทำงานเป็นลูกจ้างประจำสำนักงานสัสดีจังหวัดศรีสะเกษ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณท้ายทอย จำนวน 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ ส่วนคนร้ายได้ขับรถยนต์หลบหนีไป ตรวจสอบรอบบริเวณที่เกิดเหตุพบ ปลอกกระสุน 9 มม. ตกอยู่ภายในห้องนอน จำนวน 4 ปลอก และพบหัวกระสุนตกอยู่บนที่นอน จำนวน 2 หัว และพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่บริเวณหน้าบ้านอีก จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุของการยิงกันในครั้งนี้ อาจเกิดจากปัญหารักสามเส้า
ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ของคืนวันที่ 15 ส.ค. เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษและชุดสืบสวน สภ.โพนเขวา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืน ประมาณ 2-3 นัด บริเวณหน้าสถานีรถไฟโพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์ยี่ห้อ มิซซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 342 ศรีสะเกษ จอดติดหล่มอยู่ และพบ จ.ส.อ.หริณ อุรุโณการณ์ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ทหารในสังกัดสำนักงานสัสดีจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 11 นัด จึงได้นำตัวไปสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้น จ.ส.อ.หริณ ให้การรับสารภาพเพียงข้อหาพกพาอาวุธปืนฯ และให้การปฏิเสธเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.โพนเขวา ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะได้นำผู้ต้องหาส่งไปยังศาลทหารจังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป