หุ้นไทยยังน่าห่วง! นักวิเคราะห์แนะ "ชะลอลงทุน" มองโอกาสใน DR หุ้นจีน-สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น

คุณณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ WEALTH LIVE (27 พ.ค. 68) เตือนนักลงทุนให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงกับตลาดหุ้นไทย (SET Index) โดยชี้ว่าดัชนี ยังไม่ผ่านจุดต่ำสุดและมีโอกาสปรับตัวลงต่อ หากหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,160 จุด จะเป็นการเปิด Downside กว้าง แนะกลยุทธ์ "หลีกเลี่ยงหุ้นไทย" ในช่วงนี้ และ "ไม่ต้องรีบ" เข้าลงทุน เนื่องจากยังไม่มีหุ้นกลุ่มใดโดดเด่นพอที่จะฝ่าปัจจัยลบได้ แต่ยังคงมองเห็นโอกาสลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่าน DR (Depositary Receipt) โดยเน้นหุ้นจีน, สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนะรอจังหวะย่อตัวเพื่อเข้าสะสม
SET Index ณ จุดวัดใจ 1160 - หลุดมีโอกาสลงลึก
คุณณรงค์เดชวิเคราะห์ว่า SET Index กำลังทดสอบแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1,160 จุด ซึ่งเป็นจุดที่มีนัยยะหลายประการ "ถ้า Index มันลงมาต่ำกว่าบริเวณ 1,160 แปลว่าแรงซื้อที่ผ่านมาหายหมดแล้ว Downside จะเปิดลงไปอีกทันที" คุณณรงค์เดชกล่าว
ปัจจัยกดดันเพิ่มเติมมาจากภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่ส่งสัญญาณพักตัว (VIX Index เริ่มวกขึ้น) และความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มธนาคารในประเทศ (KBank ทำ New Low) โดยมีความหวังเดียวอยู่ที่ DELTA ซึ่งหากปรับตัวลงต่ำกว่า 106 บาท จะเพิ่มความเสี่ยงให้ SET Index หลุด 1,160 จุดอย่างมาก
หุ้นไทยยังไม่น่าสนใจ - แนะจับจังหวะ DR หุ้นเด่นต่างประเทศ
บล.ไอร่า ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนในหุ้นไทยช่วงนี้ เนื่องจากยังไม่เห็นกลุ่มอุตสาหกรรมใดที่โดดเด่นพอ และมองว่าควร "หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงไปก่อน" แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่าน DR โดยเฉพาะเมื่อตลาดมีการย่อตัว:
- DR หุ้นจีน (Tencent, Xiaomi, Alibaba, NIO): ยังน่าสนใจสะสมในจังหวะที่ราคาปรับตัวลงมา โดยเฉพาะ Tencent, Xiaomi, Alibaba อาจต้องรอการย่อตัวที่ลึกหน่อย ส่วน NIO ซึ่งเป็นหุ้นที่เพิ่งมีปัจจัยบวกเข้ามา อาจรอจังหวะย่อตัวเล็กน้อย
- DR หุ้นญี่ปุ่น (SONY - Sony 80 DR): ผลประกอบการแข็งแกร่งมาก ดีกว่าตลาดคาด 30% และยังมีโอกาสเติบโต ทำ New High ต่อได้
- DR หุ้นสหรัฐฯ (Meta, Microsoft, Nvidia): เลือกตัวที่ยังยืนเหนือเส้น EMA 10 เดือนได้ ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่ง การย่อตัวของตลาดจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าจะเป็นโอกาสดีในการเข้าสะสม
มุมมองต่อ Bitcoin และทองคำ
- Bitcoin (BTC): ยังอยู่ในฝั่ง Long หรือถือได้ แต่ต้องระมัดระวังเนื่องจากราคาใกล้ All-Time High และมีความเสี่ยงเกิด Bearish Divergence ใน Timeframe Weekly หากราคาปิดรายวันต่ำกว่า EMA 10 วัน (ปัจจุบัน 107,800 ดอลลาร์ฯ) ควรขายทำกำไรและเพิ่มความระมัดระวัง
- ทองคำ (XAUUSD): ภาพรวมหลักยังเป็นขาขึ้น แต่ Timeframe Day ติดแนวต้านกรอบขาลงระยะสั้น กลยุทธ์คือ "ลงมาผมยัง Bias ฝั่ง Long" โดยมีจุด Stop Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 3,295-3,300 ดอลลาร์ฯ (EMA 10 วัน) หากยืนได้และ Breakout ผ่านแนวต้านช่องขาลง จะเป็นการยืนยันขาขึ้นรอบใหม่และมีโอกาสทำ All-Time High สูงมาก