รีเซต

สพฐ.-กสศ.ร่วมมือช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษทั่วประเทศ​

สพฐ.-กสศ.ร่วมมือช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษทั่วประเทศ​
TNN ช่อง16
17 กรกฎาคม 2563 ( 14:24 )
232
สพฐ.-กสศ.ร่วมมือช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษทั่วประเทศ​

วานนี้ (16 ก.ค. 63) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานการขอรับเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2563 ให้แก่เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 225 เขต และครูโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ ผ่านระบบ Teleconference


นายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวเปิดการประชุมผ่านระบบ Teleconference ว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สพฐ. ร่วมกับ กสศ. ปฏิรูปกระบวนการคัดกรองนักเรียนยากจน และปฏิรูปวิธีจัดสรรงบประมาณเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือจากเขตพื้นที่การศึกษาผอ.ครู กว่า 4 แสนคน ในการระดมขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับนักเรียนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์มาอย่างดี ทำให้ สพฐ. มีเครื่องมือการคัดกรองและช่วยเหลือนักเรียนยากจนได้กว่า 1.7 ล้านคน รวมทั้งได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก กสศ.อีกคนละ 3,000 บาท/คน/ปี จำนวน 740,000 กว่าคน ครอบคลุมโรงเรียนกว่า 27,512 โรงเรียน




"สำหรับในปีการศึกษา 2563 สพฐ. และ กสศ. ได้ขยายผลการพัฒนาและบูรณาการร่วมกัน ทั้งความช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษ ตั้งแต่ระดับอนุบาล–ม.ต้น ทั่วประเทศ ให้ได้รับการช่วยเหลือเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข นอกจากนี้ยังบูรณาการการบันทึกข้อมูลเพื่อเยี่ยมบ้านและบันทึกข้อมูลการคัดกรองไว้ในระบบเดียวกัน โดยบันทึกข้อมูลครั้งเดียวสามารถนำไปใช้สำหรับเรื่องการเยี่ยมบ้านและการคัดกรองได้เลย" นายกวินทร์เกียรติ กล่าว


รองเลขาธิการ สพฐ. กล่าวอีกว่า ความร่วมมือระหว่าง สพฐ. และ กสศ. ถือว่าประสบความสำเร็จในการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา แต่นักเรียนกลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงด้านอื่นๆ เช่น สุขภาพ การเรียนรู้ พฤติกรรม เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยทำให้หลุดออกจากระบบการศึกษา สพฐ.จึงขอความร่วมมือจาก กสศ. ในการทำองค์ความรู้และวิจัยพัฒนาหาแนวทางส่งต่อการดูแลเพื่อให้ สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือนักเรียนยากจนได้อย่างครอบคลุม 


ทั้งนี้ขอขอบคุณเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา ครู ที่เป็นกำลังสำคัญจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ประโยชน์เกิดแก่นักเรียน และขอบคุณ กสศ. หน่วยงานใหม่ของประเทศ ที่เข้ามามีบทบาทเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือ ช่วยสนับสนุนและเติมเต็มแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับประเทศไทย




ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า กระบวนการคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษในส่วนของนักเรียนกลุ่มใหม่ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล สังกัด สพฐ. กรณีที่บางพื้นที่มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้คุณครูสามารถใช้วิธีการสำรวจ-สอบถามข้อมูลจากผู้ปกครอง โดยผู้ปกครอง หรือ ครูส่งรูปถ่าย หรือข้อมูลเข้ามาในระบบได้ และในวันที่มารับเงินให้เซ็นรับรองความถูกต้องของข้อมูลได้ ส่วนเรื่องการเซ็นรับรองเอกสารที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐสามารถส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ได้เช่นกัน โดย สพฐ-กสศ. เปิดระบบให้คัดกรองเข้ามาได้ระหว่างวันที่ 9-26 ก.ค. 63 โดยในภาคเรียนที่ 1/2563 จะคัดกรองนักเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนจาก สพฐ. ครบรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 และนักเรียนกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับทุนตั้งแต่อนุบาล-ม.ต้น ทั่วประเทศ


"ส่วนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์คัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษเมื่อเทอมที่ผ่านมา สามารถยื่นสมัครเข้ามาใหม่ได้ทันที เพราะเชื่อว่ามีเด็กและผู้ปกครองจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการโควิด-19 กสศ. ต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อป้องกันการเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยผู้ที่ผ่านการคัดกรองเป็นนักเรียนยากจนพิเศษในปีนี้จะได้รับจัดสรรทุนเสมอภาคทันทีจำนวน 2,000 บาทในเทอม1/2563 เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครอบครัว ส่วนที่เหลืออีก 1,000 บาทจะจัดสรรให้ในเทอม 2/2563


ที่สำคัญปีนี้ กสศ. ได้รับความร่วมมือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) และธนาคารออมสิน มอบสิทธิพิเศษให้กับนักเรียนยากจนพิเศษที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปี สามารถเปิดบัญชีธนาคารศูนย์บาท ไร้ค่าธรรมเนียมและสมัครบริการพร้อมเพย์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลให้การจัดสรรเงินอุดหนุนในเทอมหน้าจะเน้นโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของนักเรียน เพื่อความโปร่งใส และลดภาระของโรงเรียน ที่สำคัญเงินมุ่งตรงไปที่ตัวเด็กโดยตรง ทำให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด" รองผู้จัดการ กสศ. กล่าว

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ข่าวที่เกี่ยวข้อง