รีเซต

“เอสซีบีเอกซ์” ผนึกกำลัง “ปับลิซีส เซเปียนท์” ยกระดับ “เอสซีบี เทคเอกซ์” ก้าวสู่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“เอสซีบีเอกซ์” ผนึกกำลัง “ปับลิซีส เซเปียนท์” ยกระดับ “เอสซีบี เทคเอกซ์” ก้าวสู่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มติชน
16 ธันวาคม 2564 ( 13:23 )
60

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ยานแม่ของ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” (SCBX) ในการยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค ที่มีขีดความสามารถในการสร้างและบริหารจัดการแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (technology platform) เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มระดับโลก รวมถึงการสร้างขีดความสามารถของบุคลากรด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างขีดความสามารถพื้นฐานด้านเทคโนโลยีภายในที่จะสามารถสร้าง และ scale platform ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

 

โดยการร่วมทุนกับพันธมิตรอย่าง “ปับลิซีส เซเปียนท์” ผู้นำทางด้านการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นระดับโลก ใน SCB Tech X ครั้งนี้ จะเป็นการผสานความรู้ ความสามารถของสององค์กรยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาค ในการร่วมกันพัฒนา และสร้าง SCB Tech X ให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย SCB Tech X จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” (SCBX) สามารถบรรลุพันธกิจได้ตามเป้าหมาย ผ่านการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยี โดยให้บริการธุรกิจในรูปแบบธุรกิจด้านแพลตฟอร์ม ทั้งกลุ่มธุรกิจด้านการเงิน และนอกเหนือจากบริการทางการเงิน

นายไนเจล วาซ ประธานกรรมการบริหารของปับลิซีส เซเปียนท์ กล่าวว่า SCB Tech X คือ องค์กรที่เป็นต้นแบบให้กับบริษัทเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ มีวัตถุประสงค์ในการช่วยให้ธนาคาร องค์กร และบริษัทต่าง ๆ คิดค้นวิธีการใหม่ ๆ ที่จะสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของตนเอง ทั้งนี้ SCB Tech X จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลและตลาดอีคอมเมิร์ชทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ความร่วมมือของเรากับ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” (SCBX) ในครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวของบุคลากรที่มีความสามารถ ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากทั้งสององค์กร โดยมุ่งหวังผลลัพธ์ในการสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ปฏิบัติการด้วยความรวดเร็วตามแบบฉบับของธุรกิจดิจิทัล เพื่อรองรับโลกแห่งอนาคต

 

การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือกันของทีมงานบริหารที่มากด้วยประสบการณ์ทั้งจาก “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” (SCBX) และปับลิซีส เซเปียนท์ โดยมีนายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Technology ของธนาคารไทยพาณิชย์ มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB Tech X และนายโจนาธาน ชาร์ป ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ปับลิซีส เซเปียนท์ มาร่วมบริหารในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี

นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB Tech X) กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของ SCB Tech X คือ การสร้างขีดความสามารถใหม่ทางดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดและสร้างธุรกิจใหม่ให้กับ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” (SCBX) ให้กลายเป็นกลุ่มบริษัทที่มีนวัตกรรมและแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยี (Technology platform) ที่หลากหลาย SCB Tech X ได้รวมประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีและการทำงานประสานกับภาคธุรกิจต่าง ๆ (Cross-sector) เพื่อทำให้กลุ่มไทยพาณิชย์ และพันธมิตรทางธุรกิจ สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับโลกได้อย่างทัดเทียม พร้อมสู่โลกแห่งอนาคตที่มีดิจิทัลเป็นตัวนำ

 

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่ายอดการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 33 ล้านล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2568 โดยในประเทศไทยมีประมาณการว่าในปีเดียวกันจะมีจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 43.77 ล้านคน  ในขณะที่ segment ของการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ ๆ บนดิจิทัลคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 58.7%  นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการสำรวจโดยปับลิซีส เซเปียนท์ที่เรียกว่า Digital Life Index3 เผยว่า 83% ของผู้ตอบแบบสำรวจคนไทยมีบัญชีธนาคารรูปแบบดิจิทัลเพียงรูปแบบเดียว (a digital-only bank) ซึ่งจากสถิตินี้สะท้อนให้เห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจด้านเทคโนโลยีทางการเงินทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย

 

นายเดวิด เมอร์ฟี่ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจบริการทางการเงิน ปับลิซีส เซเปียนท์ ประจำภูมิภาคยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา และเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า ไม่ว่าจะธุรกิจหรือภูมิภาคใดก็ตาม ลูกค้ามีคาดหวังที่จะได้รับความหลากหลายและความสะดวกสบายทั้งจากบริการทางการเงินและบริการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเงินบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่าย ในตอนนี้ธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัว ปรับโครงสร้าง โดยการนำเอาเครื่องมือ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อนำเอาประโยชน์ของข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และประสบการณ์ในการใช้งานที่ปราศจากอุปสรรค (Frictionless experiences) ของลูกค้ามาใช้ต่อยอดธุรกิจให้มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง