พาณิชย์เอาจริง! ฟันร้านค้าโกงคนละครึ่ง โก่งราคาเกินสมควร โดนไปแล้ว 116 ร้าน
พาณิชย์เอาจริง! ฟันร้านค้าโกงคนละครึ่ง โก่งราคาเกินสมควร โดนไปแล้ว 116 ร้าน จาก 100,000 ร้านค้า ชี้ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นยังไม่มีผลกระทบต้นทุนมาก
วันที่ 3 ก.พ.65 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ( คน.) กล่าวภายหลังติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ณ ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต เขตทวีวัฒนา กทม.หลังเทศกาลตรุษจีนเพื่อตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่และไข่ ว่า จากที่ได้รับรายงานเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกระทรวงพาณิชย์ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศราคาสินค้าสำคัญมีแนวโน้นปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหมูเนื้อแดงอยู่ที่ 170-180 บาทต่อกก. แยกเป็นสะโพกอยู่ที่ 175 บาทต่อกก. ไหล่อยู่ที่ 160 บาทต่อกก. สันในอยู่ที่ 190 บาทต่อกก. สันนอกอยู่ที่ 185 บาทต่อกก. สามชั้นอยู่ที่ 200 บาทต่อกก.
อย่างไรก็ตาม ราคาเนื้อหมูที่เริ่มปรับลดลงดังกล่าวสืบเนื่องจากแนวนโยบายความร่วมมือของภาครัฐที่ร่วมกันตรวจสต็อกปริมาณหมูทั่วประเทศ ทำให้ทราบปริมาณเนื้อหมูในระบบเหลือจริงมากน้อยแค่ไหนประกอบกับทำให้สต็อกหมูที่เก็บอยู่กลับเข้าสู่ตลาดอย่างเพียงพอ ทำให้ขณะนี้ราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มปรับลงเหลือต่ำกว่า 100 บาทต่อกก. และคาดว่าราคาเนื้อหมูจะปรับลดลงตามต้นทุนที่แท้จริงได้ในเร็วๆนี้ และยังได้รับรายงานไม่เพียงแต่เนื้อหมูในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ลดลงเท่านั้น โดยราคาเนื้อหมูในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศโดยเฉลี่ยเริ่มลดลงมาอยู่ที่ 200 บาทต่อกก. ซึ่งก่อนช่วงตรุษจีนมีการพูดถึงราคาเนื้อหมูจะสูงถึง 250-300 บาทต่อกก.
นอกจากนี้ ขณะที่ราคาไก่สดเฉลี่ยอยู่ที่ 65-80 บาทต่อกก. ส่วนไข่ไก่เบอร์ 3 อยู่ที่แผงละ 100 บาท โดยไม่รวมค่าแผงกระดาษ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 3.33 บาทโดยราคานี้อยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล ส่วนราคาผักส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับปกติ เช่น ผักคะน้า กิโลกรัมละ 25 บาท ผักกาดขาว กก. ละ 20 บาท ผักบุ้งจีน กก. ละ 20 บาท ผักชี 130 บาทกก. ละเป็นต้น
ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นยอมรับว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านการขนส่งบ้าง แต่เท่าที่ได้ติดตามยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดยื่นขอปรับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเวลานี้ ยอมรับว่า ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่จากการขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการผลิตและห้างค้าส่งค้าปลีกต่างๆยังคงจำหน่ายอยู่ในราคาที่เหมาะสม เฉลี่ยขวดละ 59-62 บาท โดยราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้เกิดจากประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย ประสบปัญหาในเรื่องของ โควิด-19 ทำให้แรงงานแทงปาล์มขาดแคลน
ส่งผลกับปริมาณน้ำมันปาล์มในตลาดและการผลิตปาล์มในประเทศลดลง และในเดือนก. พ. นี้ ประเทศไทยผลปาล์มทะลายของเกษตรกรกำลังเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นแล้ว ประกอบกับสถานการณ์การผลิตน้ำมันปาล์มในตลาดโลกเริ่มดีขึ้น เชื่อว่าราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจะสามารถอ่อนตัวลงได้
นอกจากนี้ ในส่วนโครงการ “คนละครึ่ง” ที่เริ่มดำเนินการในเฟสที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ซึ่งประชาชนได้รับเงินคนละ 1,200 บาท ไปใช้จ่าย รวมถึงการเติบเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น เน้นย้ำไปถึงร้านค้า ว่า ขณะนี้ มีทีมสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 55 ชุด เพื่อตรวจสอบเข้มในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และภูมิภาค จะมีทีมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดูแล ซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุด กับร้านที่โก่งราคาเกินสมควร โดยเฉพาะร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่รองรับผู้ถือบัตรสวัสดิแห่งรัฐ หากพบการขึ้นราคา โก่งราคา หรือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ยืนยันว่าจะยกเลิกให้เป็นร้านธงฟ้าทันที ซึ่งขณะนี้เพิกถอนไปแล้ว 116 ร้านค้า จาก 100,000 ร้านค้า
นายสุรศักดิ์ โรจนวิริยาภรณ์ เจ้าของตลาดเวิลด์มาร์เก็ตกล่าวว่า เท่าที่ได้สอบถามแผงเนื้อหมู ไก่ และไข่ ที่ขายในตลาดส่วนใหญ่ระบุว่าราคาลดลงก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน เช่นราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มที่ส่งมายังแผงหมูในตลาดวันนี้อยู่ที่ 95 บาทต่อก.ก ทำให้ราคาเนื้อหมูโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 170-180 บาทต่อกก. ดังนั้น หากปริมาณหมูหน้าฟาร์มเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นก็เชื่อว่าโอกาสราคาเนื้อหมูจะปรับลดมาได้อีกแน่นอน