ไปคุยกันเอง สมาคมบอลชี้แค่แนะลดค่าเหนื่อย - นักเตะ-สโมสรต้องถกกัน
ไปคุยกันเอง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์เรื่องการอนุญาตให้สโมสรลดค่าเหนื่อยนักเตะ แต่ไม่ได้บังคับ พร้อมชี้แจงให้ทั้งนักเตะและทีมร่วมหาทางออก
ไปคุยกันเอง - สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่ สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ได้ยื่นหนังสือสอบถาม เกี่ยวกับแนวทางการปรับลดค่าจ้าง ในอัตราร้อยละ 50 โดยมีใจความอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่ 1. กรอบระยะเวลาของสัญญาที่มีการปรับลดค่าจ้าง 2. ตัวอย่างหนังสือการปรับปรุงสัญญา 3. รายละเอียดระยะเวลา และช่วงที่กำหนดให้มีการเปิดตลาดซื้อขายใหม่ โดยสมาคมได้นำมาเผยแพร่ ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยมติในที่ประชุมสโมสรไทยลีก 1 และ 2 ได้ยึดถือตามแนวทางที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มอบไว้ให้แก่ประเทศสมาชิก ที่ระบุให้มีการเจรจาสัญญากับนักกีฬา ในการปรับลดค่าจ้างระหว่างที่ไม่มีการแข่งขัน เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เป็นสัญญาเฉพาะกาล ซึ่งกรอบระยะเวลาของสัญญาจะสิ้นสุดต่อเมื่อกลับมาแข่งขันใหม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ของโรค และนโยบายของรัฐในแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ดี สมาคมขอชี้แจงว่า ข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคม และระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ (ระเบียบ) ของบริษัท ไทยลีก จำกัด (ไทยลีก) มิได้ให้อำนาจสมาคม และไทยลีก ก้าวล่วงเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือสั่งการใดๆ เกี่ยวกับการเพิ่ม หรือลดค่าตอบแทนตามสัญญาระหว่างสโมสรสมาชิกกับนักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ทีมได้ และสมาคมกับไทยลีกมิได้เข้าร่วมเป็นคู่สัญญาด้วย ความผูกพันระหว่างสโมสรสมาชิกกับนักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ทีมเป็นไปตามนิติกรรมสัญญาระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ซึ่งสโมสรสมาชิกแต่ละแห่งทำไว้กับนักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ทีมเป็นรายๆ ไป อาจมีเนื้อหาสาระเหมือน หรือคล้าย หรือแตกต่างกันได้ ไม่มีข้อบังคับ และระเบียบกำหนดไว้เป็นการตายตัว
สำหรับกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในช่วงเวลานี้ได้ ผลกระทบใดๆ ที่เกิดมีขึ้นกับสโมสรสมาชิก นักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ทีมด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรตกลงร่วมกัน หาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ให้สอดคล้องสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดอยู่ในปัจจุบัน เหตุที่เกิดขึ้นมิใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มิใช่เกิดขึ้นโดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระทำผิดสัญญา แต่เป็นเหตุแห่งภัยพิบัติที่เกิดขึ้น โดยไม่อาจคาดการณ์ได้ ตามกฎหมายถือเป็นเหตุสุดวิสัย ผลกระทบใดๆ ที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ทุกฝ่ายต้องยอมรับในผลกระทบนั้น และผลกระทบมิได้มี หรือเกิดขึ้นเฉพาะแต่กับสโมสรสมาชิก นักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ทีม เท่านั้น แม้แต่สมาคม และไทยลีก ล้วนได้รับผลกระทบ และผลกระทบมิได้เกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศเดียว อุบัติภัยครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบกับสโมสรสมาชิก นักกีฬา เจ้าหน้าที่ทีม ทั่วทั้งโลก รวมถึงสมาคมกีฬาฟุตบอล และฝ่ายจัดการแข่งขันของประเทศทั่วโลก ได้รับผลกระทบด้วย ทั้งกีฬาชนิดอื่นๆ ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันด้วย ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายจึงต้องเจรจาหาทางออกในเรื่องสัญญา และค่าตอบแทน ร่วมกัน
ทั้งนี้ ข้อตกลงที่ได้ย่อมแตกต่างกันไปตามแต่สถานการณ์ และตามแต่คู่สัญญาจะเห็นสมควร อย่างไรก็ตาม สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้กำหนดมาตรการ หรือแนวทาง เพื่อเปิดโอกาสให้สโมสร และนักกีฬาได้สามารถเจรจาหาทางออกเรื่องสัญญา และค่าตอบแทนร่วมกัน อาทิ การปรับปรุงวันสิ้นสุดของสัญญา โดยขยายออกไปจนถึงวันสิ้นสุดการลงทะเบียนรอบใหม่ การระงับสัญญาไว้เป็นการชั่วคราว ในช่วงที่ไม่มีการแข่งขันกีฬาฟุตบอล จะเป็นประการใดขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายที่จะตกลงร่วมกันในมาตรการดังกล่าว รวมถึงเรื่องค่าตอบแทนตามสมควร ทั้งได้แนะนำในส่วนของการปรับปรุงสัญญาด้วยว่าควรให้สอดคล้องกับระยะเวลาของฤดูกาลใหม่ รวมถึงการปรับช่วงเวลาของตลาดซื้อ-ขายให้สอดคล้องกับตารางการแข่งขันใหม่ด้วย
ส่วนรายละเอียดระยะเวลาและช่วงที่กำหนดให้มีการเปิดตลาดซื้อขายใหม่ สมาคมและไทยลีกจะได้ประกาศให้ทราบ เป็นการทั่วไป ต่อไป