รีเซต

'จุรินทร์' ลุยต่อประกันรายได้-ดัน 5 พืช ศก.มูลค่าสูง เดินหน้า 'ซอฟต์เพาเวอร์-ไบโออีโคโนมี-ท่องเที่ยว'

'จุรินทร์' ลุยต่อประกันรายได้-ดัน 5 พืช ศก.มูลค่าสูง เดินหน้า 'ซอฟต์เพาเวอร์-ไบโออีโคโนมี-ท่องเที่ยว'
มติชน
22 กุมภาพันธ์ 2565 ( 07:30 )
86

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดสัมมนาเรื่อง ประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่อาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) รูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊กมติชน ไลน์มติชน ไลน์ข่าวสด และยูทูบมติชนทีวี โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ประกันรายได้ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งมีการเสวนา หัวข้อ โครงการประกันรายได้สินค้า 5 สินค้าเกษตร (ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา)

 

นายจุรินทร์กล่าวปาฐกถาพิเศษ ประกันรายได้ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ว่าขอย้ำว่าเป็นการประกันรายได้ ไม่ใช่ประกันราคา เพราะราคาประกันไม่ได้ แต่รายได้ประกันได้ โครงการนี้เกิดจากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น 1 ใน 3 ข้อเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นรัฐบาล โดยอีก 2 ข้อ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขปัญหาแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จนวันนี้นโยบายประกันรายได้เกษตรกรเกิดขึ้นเป็นนโยบายของรัฐบาลเดินหน้าเข้าปีที่ 3 และกำลังจะขึ้นปีที่ 4 นอกจากเป็นการพัฒนาเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ 5 ชนิดแล้ว ยังถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

 

นายจุรินทร์กล่าวว่า ถึงวันนี้ กล้าพูดว่าพืชเกษตรราคาดีทุกตัว อย่างยางพารา 3 โล 100 ถูกวิจารณ์มาตลอด วันนี้ไม่ใช่แล้ว ช่วง 3 ปีที่ทำโครงการประกันรายได้สามารถส่งเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 450,000-500,000 ล้านบาท ที่สำคัญไม่ส่งผลเฉพาะการฟื้นเศรษฐกิจฐานรากช่วยให้เกษตรกรอยู่ได้ แต่ยังช่วยแก้ปัญหาทางการเมือง สังเกตได้ว่าตั้งแต่ทำโครงการ ม็อบเกษตรกรเกิดขึ้นน้อยมาก และสำคัญอีกข้อ ประกันรายได้ ไม่มีทุจริต ทุจริตไม่ได้ เพราะมีกระบวนการตรวจสอบหลายขั้นตอนมาก โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ตรวจบัญชีและโอนเงินตรงเข้าบัญชีเกษตรกร

 

“สำหรับอนาคตของเกษตรกร และภาพรวมเศรษฐกิจไทย จะมี 4 ด้านช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย และเป็นกลุ่มทำรายได้มหาศาล ได้แก่ สินค้าเกษตรยังเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ โดยต้องพัฒนาปรับปรุงสู่เกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม คือไบโออีโคโนมี การส่งออกพิสูจน์แล้วว่าประเทศไทยมีศักยภาพภายใต้ความร่วมมือของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ ภาคเอกชน ปี 2564 สามารถทำเงินเข้าประเทศถึง 8.5 ล้านล้านบาท เติบโต 17.1% การท่องเที่ยวต้องถือว่าเป็นเป้าหมายหลักต่อไป เมื่อเกิดการเดินทางข้ามประเทศได้กลับมาอีกครั้ง

“และซอฟต์ เพาเวอร์ โดยเฉพาะภาคบริการที่ริเริ่มดิจิทัลคอนเทนต์สนับสนุนทำแอนิเมชั่น ขายความเป็นไทยที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว และสุดท้าย โครงการประกันรายได้จะยังขับเคลื่อนต่อไปตราบเท่าที่รัฐบาลนี้ยังบริหารราชการแผ่นดิน หรือแม้พ้นรัฐบาลนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะยังขับเคลื่อนต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง