นักวาดภาพสาวกัมพูชา ร้องทนายตั้ม ถูกชาวโปแลนด์ทุบตี มีดกรีดหน้า สาดน้ำกรด ที่ริมหาดพัทยา
จากกรณี เพจของ ทนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือทนายตั้ม ได้โพสต์ ภาพหญิงสาวชาว กัมพูชา มีอาชีพเป็นนักวาดภาพอิสระ ถูกคนร้ายเป็นฝรั่งชาวโปรแลนด์ ทำร้ายร่างกาย ใช้ มีดกรีดหน้า – ค้อนทุบตี คนเลือดอาบร่างกาย มิหนำซ้ำยัง ให้น้ำกรดสาด ใบหน้า ตามร่างกาย และ อวัยวะเพศ จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเหตุ ป่ารกร้าง ใกล้กับร้านอาการแบมบูชี ย่านนาเกลือซอย 16 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยเพจของ ทนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุข้อความ “ศิลปินวาดภาพสาวชาวกัมพูชา ถูกมาเฟียชาวโปแลนด์หลอกให้ไปวาดรูปที่ชลบุรี พอไปถึงหน้างาน ได้ล็อคตัวเหยื่อเพื่อ ทำร้ายร่างกาย ทั้งใช้มีดฟัน น้ำกรดสาด จนมีแผลทั่วร่าง เย็บไปกว่า 260 เข็ม ผ่านมาหลายวันกว่าตำรวจจะออกหมายจับ จนผู้ต้องหาหลบหนีไปก่อน ผู้เสียหายเลยเข้ามาร้องเรียนกับผมครับ”
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านอาหารแบมบู บีช ประมาณ 100 เมตร และได้พูดคุยกัน คุณกอล์ฟ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านอาหารดังกล่าว โดยได้เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ช่วงเย็นๆ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ก็เห็นคนเจ็บอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ฯ แล้ว ในสภาพร่างกายสะบักสะบอม เลือดไหลอาบร่าง แต่ก่อนหน้าที่คนเจ็บจะอยู่ในสภาพ ดังกล่าว ได้มานั่งทานข้าวที่ร้าน พร้อมกับ สุนัข 1 ตัว ส่วนสถานที่ที่ถูกทำร้าย ทราบเพียงว่าเหตุเกิดบริเวณบ้านร้าง ส่วนคนร้ายทราบว่าเป็นฝรั่งชาวต่างชาติ เท่านั้น
นาย บังหมัด อายุ 24 ปี รปภ.คอนโด ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ได้พบคนเจ็บ มีบาดแผลเต็มร่างกายกำลังเดินขึ้นมาจากชายหาด ตอนแรกคิดว่าตกโขดหิน แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นร่องรอยบาดแผลตามตัว เลือดไหลอาบร่าง แถมเนื้อตัวเปียกโชกไปทั้งตัว คล้ายถูกน้ำกรดสาดมา จึงรู้ว่าคนเจ็บถูกทำร้าย ส่วนคนร้ายน่าจะมีประมาณ 2 คน เป็นฝรั่งชาวต่างชาติ เป็นคนผอม 1 คน อ้วน 1 คน โดยคนผอมจะหนีบขวดพลาสติกใต้รักแร้ตลอดเวลา โดยหลังเกิดเหตุ คนร้ายทั้ง 2 คน เดินทางขึ้นจากชายหาด เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุนั้นทาง ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ สืบสวนและทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ได้ออกติดตามไล่ล่าคนร้าย พร้อมทั้งยึดของกลางที่ตกในที่เกิดเหตุ เป็นมีดและค้อน พร้อมส่งตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงกับตัวคนร้าย จนรู้ว่าคนร้ายคือใคร แต่ปรากฏว่า แนวทางการสืบสวน ทรายคนร้ายซึ่งเป็นชาวโปแลนด์ หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. จึงมีการประสานกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ออกหมายจับฝรั่งโปแลนด์รายนี้ พร้อมทั้ง ประสานไป องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือตำรวจสากล ( อินเตอร์โพล ) ออกหมายจับแดง ในการบังคับใช้กฏหมาย จับกุมฝรั่งโหดรายนี้เช่นกัน