รีเซต

BYD สนใจขายคาร์บอนเครดิต ปลื้มติดโผฟุตซี หุ้น Small Cap

BYD สนใจขายคาร์บอนเครดิต ปลื้มติดโผฟุตซี หุ้น Small Cap
ทันหุ้น
24 สิงหาคม 2565 ( 12:58 )
214

#BYD  #ทันหุ้น BYD ติดโผ FTSE Small Cap จะมีการปรับน้ำหนัก วันที่ 16 กันยายนนี้ เผยธุรกิจอีวีต่อยอดโต พร้อมลุยคาร์บอนเครดิต คาดเริ่มขายคาร์บอนได้ปลายปี 2565 ลุ้นผลประกอบการไตรมาส 4/65 งบฟื้น เทิร์นอะราวด์ปีนี้ วางแผนบรรจุรถกว่า 900 คัน เพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจอีวีโดดเด่น ส่วนธุรกิจโบรกเกอร์ดีขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าเสริมบริการให้ลูกค้า

 

รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุด FTSE ประกาศผลการทบทวนดัชนีรายไตรมาส มีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 16 กันยายน 2565 โดยในกลุ่ม Small Capได้เข้าคำนวณ 4 ตัว - BYD, FORTH, RAM, VIBHA ออก 1 ตัว - IMPACT

ส่วน Micro Cap มีหุ้นที่เข้า 20 ตัว - AIE, BBGI, BIOTEC, B-WORK, FN, GVREIT, INSET, ILINK, INET, KBS, M-CHAI, MSC, SYNEX, TEAMG, TPAC, TR, TRUBB, THE, TH, XPG ออก 5 ตัว - CTW, FORTH, JCK, JKN, PRINC

 

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD เปิดเผยว่า สำหรับ BYD ที่ได้รับการเข้าคำนวณใน FTSEก็มองว่าน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะมีเม็ดเงินจากนักลงทุนสถานบันเข้ามาลงทุนไม่มากก็น้อย ถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะทางบริษัทมีการให้ข้อมูลแผนธุรกิจที่ชัดเจนเชื่อว่านักลงทุนจะเห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจน

 

ธุรกิจอีวีทำเงิน

ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลงทุนผ่านบริษัทร่วมที่ชื่อ บริษัท เอช อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ACE) ซึ่ง ACE ถือหุ้น 100%ในกิจการให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะด้วยรถบัสไฟฟ้า ชื่อ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ปัจจุบันบริษัทย่อยในกลุ่มของ TSB มีสัมปทานการเดินรถ 80 เส้นทาง เป็นส่วนของเส้นทางเก่า 9 เส้นทางและเส้นทางที่ได้รับสัมปทานเดินรถมาใหม่อีก 71 เส้นทาง 

 

ปัจจุบันได้เริ่มมีการบรรจุรถแล้ว อย่างในส่วนของ 71 เส้นทางใหม่นั้นมีรถประจำทางไฟฟ้า 8 สาย ที่ได้บรรจุไปแล้ว 40 คัน มีแผนจะบรรจุให้ครบ 112 คัน อย่างไรก็ดีปีนี้คาดว่าจะสามารถบรรจุรถ E-bus ได้กว่า 900 คัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ในส่วนของธุรกิจอีวี

 

โดยในส่วนของธุรกิจอีวีนั้น รถบัสของบริษัทส่วนใหญ่เป็นรถบัสไฟฟ้า(E-bus) ทำให้สามารถลงทะเบียนการรับรองคาร์บอนเครดิตองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ อบก. ได้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำในส่วนของเอกสารการดำเนินการ ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าจะสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ในช่วงปลายปีนี้ ช่วยต่อยอดการเติบโตของบริษัทต่อไป

 

สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์ในปี 2566 ตั้งเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์จะขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1-2% จากปี 2564 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 0.1-0.2% และปี 2567 คาดหวังมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นแตะ 1 ใน TOP 10 ของธุรกิจหลักทรัพย์ได้ จากการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำรองรับและส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีโอกาสทำผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าตลาดจะผันผวนแค่ไหน และรู้เท่าทันในการลงทุนในหลักทรัพย์ในทุกๆ แง่มุม

 

ธุรกิจโบรกเกอร์โอกาสโต

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 10,000 บัญชี โดยมีบัญชีแอ็คทีฟแบบเดย์เทรดอยู่ที่เฉลี่ยราว 1,000-2,000 บัญชี ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าโปรแกรมเทรด MT5จะช่วยดึงดูดลูกค้ามาเปิดบัญชีดังกล่าวไม่น้อยกว่า 500 บัญชีได้ในปีนี้ รวมถึงบริษัทยังเตรียมงบลงทุนเพื่อรุกธุรกิจหลักทรัพย์มากขึ้น โดยตั้งเป้าปล่อยมาร์จิ้นโลน ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ รวมถึงกลุ่มลูกค้าของบริษัท

 

ทั้งนี้จากการขยายธุรกิจทั้งสองส่วนเชื่อว่าไตรมาส 4/2565 ผลประกอบการจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ ที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับโครงการสร้างธุรกิจ ปรับโครงสร้างของการถือหุ้น ดังนั้นเชื่อว่าภาพรวมจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้ และแผนการขยายธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตระยะยาวต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง