โศกนาฏกรรมอาหารเช้า ครอบครัวจีนดับสลด 9 ชีวิต หลังใช้วัตถุดิบ แช่นานนับปี

เหตุสลดนี้เกิดขึ้นที่เมืองจีซี มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน เมื่อสมาชิกครอบครัวใหญ่ 9 ราย ได้เสียชีวิตในเวลาไล่เรี่ยกัน สาเหตุการเสียชีวิตมาจากบะหมี่แป้งข้าวโพดหมักเป็นอาหารเช้า

จากรายงานเหตุการณ์นี้เกิดตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เหมือนครอบครัวอื่น ในช่วงเช้าครอบครัวนี้ก็ทำอาหารเหมือนปกติ เมนูที่จะทำวันนี้ก็คือ ซวนถังจือ หรือ บะหมี่แป้งข้าวโพดหมัก ซึ่งเป็นอาหารประจำท้องถิ่น ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวใหญ่อาศัยรวมกัน 12 คน ทุกคนก็กินเมนูมรณะนี้ทั้งหมด ยกเว้นแค่เด็ก 3 คนที่เลือกจะไม่กิน เพราะอาหารมีกลิ่น และรสชาติที่แปลกประหลาด

หลังจากที่ทุกคนกินบะหมี่แป้งข้าวโพดเข้าไป ก็เริ่มมีอาการป่วย จากอาการอาหารเป็นพิษ จนกระทั่งมีการยืนยันว่ามี 8 รายเสียชีวิตในวันที่ 11 ตุลาคม ทำให้เหลือสมาชิกเพียงคนเดียว ทีมแพทย์พยาพยามอย่างสุดความสารถในการยื้อชีวิต แต่ท้ายสุดเธอก็ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา

สาเหตุจากอาหารเป็นพิษในครั้งนี้คือ แป้งข้าวโพดหมัก เนื่องจากสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นของจีน ได้เปิดเผยว่ามีการตรวจพบสารพิษ Bongkrekic acid ที่มีความเข้มข้นสูงอยู่ใน บะหมี่แป้งข้าวโพดหมัก และของเหลวตัวอย่างที่เก็บมาจากกระเพาะอาหารของผู้ป่วย

สารพิษนี้เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ เกิดจากแบคทีเรีย Pseudomonas Cocovenenans ซึ่งเป้นสาเหตุหลักของอาหารเป็นพิษที่เกิดจากผลิตภัณฑ์แป้งหมัก และเชื้อราสีขาว

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า แป้งข้าวโพดหมัก ที่คริบครัวนำมาทำนั้นถูกเก็บไว้ในตู้แช่แข็งของครอบครัวมานานเป็นปี คาดว่าทำให้เกิดสารพิษ Bongkrekic Acid รวมถึงเชื้อราในแป้งข้าวโพดหมัก รวมถึงวัตถุดิบอื่นที่อาจมีการเน่าเสียด้วย

เกา เฟย ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยด้านอาหารของศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคเฮยหลงเจียง ได้กล่าวว่า พิษของ Bongkrekic acid นั้นอันตรายถึงชีวิต ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่ออวัยวะภายในของผู้ที่ได้รับสารพิษเข้าไป และในปัจจุบันยังไม่มียาสำหรับแก้พิษดังกล่าว ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 40-100% ซึ่งสารพิษดังกล่าวสามารถทนในอุณภูมิที่สูงจากการประกอบอาหารได้อีกด้วย

ทั้งยังกล่าวอีกว่าควรหลีกเลี่ยงแป้งข้าวโพดที่ขึ้นรา หรือแป้งข้าวโพดที่แช่น้ำทิ้งไว้นาน หากได้กลิ่นแปลกๆ หรือพบว่ามีจุดสี ก็ไม่ควรนำมาประกอบอาหารหรือรับประทาน

ที่มา : hk01 / chinadaily