[RIP] John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนตี้ไวรัส McAfee เสียชีวิตแล้ว
John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนตี้ไวรัส McAfee ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 75 ปี ขณะถูกควบคุมตัวในเรือนจำเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จากข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีในสหรัฐอเมริกา เขาถูกทางการสหรัฐตั้งข้อหาเพิ่มเติมอีกรวม 7 ข้อหา เกี่ยวกับการหลอกให้คนมาลงทุนในเงินคริปโต โดยเขาปฏิเสธการถูกส่งตัวกลับไปที่สหรัฐมาตลอด โดยทางเรือนจำระบุว่า John McAfee เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ซึ่งทางทีมทนายของ John McAfee ก็ได้ยืนยันการเสียชีวิตของเขาแล้ว
ประวัติ "John McAfee" และ "แอนตี้ไวรัส McAfee"
John McAfee เป็นเด็กชาวอังกฤษที่เกิดในปี 1945 ย้ายถิ่นฐานตามพ่อแม่ไปอยู่ ณ เมืองโรอาโนก รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เขามีชีวิตวัยเด็กที่ไม่ดีนัก ไม่ว่าจะพ่อที่ติดเหล้า และชอบทุบตีเขากับแม่ และแม้พ่อของเขาจะฆ่าตัวตายในตอนที่เขาอายุได้ 15 ปี เขาก็ยังไม่พ้นทุกข์ เพราะได้โรคหวาดระแวง มาจากเหตุการณ์วัยเด็กที่แสนโหดร้าย ทำให้เขามักจะหวาดระแวงกับบางสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นอยู่ตลอด และมักจะทำอะไรแปลก ๆ อยู่เสมอ
John McAfee ติดเหล้าหลังจากที่พ่อเขาตายไป แต่นั่นไม่ได้ไปลดความสามารถหรือปิดกั้นพรสวรรค์ของเราเลย เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโรอาโนก เขาฉลาดและมีหัวด้านการทำธุรกิจก่อนใคร เขาเริ่มธุรกิจแรกด้วยการส่งหนังสือแมกกาซีนตรงถึงหน้าประตูบ้าน โดยที่ลูกค้าไม่ต้องออกไปซื้อให้เสียเวลา เมื่อจบการศึกษาเขาได้เข้าทำงานในบริษัทผลิตบัตรเจาะรู ทำหน้าที่สั่งงานเครื่องจักร ระหว่างนี้เขาเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ด้านพื้นฐานภาษาคอมพิวเตอร์จากในที่ทำงานของเขาเอง เขาก็ได้ ย้ายไปทำงานในบริษัทที่ใหญ่กว่าอย่าง Missouri Pacific Railroad บริษัทขนส่งเดินรถจักรแห่งรัฐมิสซูรี่ เขาใช้ความรู้ทั้งหมดที่มี สร้างระบบควบคุมเวลาการเดินรถไฟ ด้วยคอมพิวเตอร์ IBM รุ่นใหม่ในยุคนั้นได้สำเร็จ
แม้จะดูดี แต่ด้วยนิสัยที่ต้องพัวพันกับยาเสพติดและการดื่มเหล้าในเวลางาน ทำให้เขาต้องย้ายไปทำงานใน Silicon Valley แต่นั่นก็ทำให้เขาได้เข้าทำงาน ในบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง รวมถึง NASA ด้วย จนปี 1986 เกิดวิกฤตมัลแวร์ระบาด สร้างความเสียหายมหาศาลแก่คอมพิวเตอร์ทั่วโลก John McAfee มองเห็นช่องทางทำธุรกิจ เลยตั้งบริษัท McAfee ในปี 1987 ขึ้นมา และเปิดตัวโปรแกรมสแกนไวรัส McAfee ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกในทันที ในปี 1992 การมาของมัลแวร์ระเบิดเวลา Michelangelo ทำให้คนทั่วโลกรู้จัก McAfee เพราะเป็นแอนตี้ไวรัสเพียงเจ้าเดียวในตอนนั้น ที่สามารถจัดการกับเจ้างมัลแวร์ตัวนี้ได้
ต่อมาในปี 1994 บริษัท Intel ได้มาขอซื้อบริษัท McAfee ต่อจาก John McAfee ซึ่งเขาก็ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว และรับเงินตอบแทนจากการขายบริษัทประมาณ 2,500 พันล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีในทันที หลังจากนั้น เขาทำหน้าเป็นที่ผู้บรรยายให้กับสถาบันด้านธุรกิจ Stanford Graduate School of Business และเริ่มตั้งบริษัท PowWow โดยสร้างโปรแกรมแชท Tribal Voice ออกมา แต่ไม่รุ่ง จึงได้ขายทิ้งไปในเวลาต่อมา
หลังจากนั้น John McAfee กลับต้องเกือบเสียเงินทั้งหมดไปกับการลงทุนใน Cryptocurrency และการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกับที่อยู่อาศัย ทำให้เขาเหลือเงินในบัญชีแค่ 100 ล้านบาท ทำให้เขาต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มี ทั้งโคโลราโด และฮาวาย พร้อมกับรวบรวมเงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในเบลีซ ประเทศเล็ก ๆ ในภูมิภาคอเมริกากลาง ด้วยสาเหตุที่ว่ามีการเก็บภาษีน้อยกว่าสหรัฐอเมริกา พร้อมทำธุรกิจยาปฏิชีวนะและแบคทีเรียกับบริษัท Quorumex ในช่วงนั้นเขาทำตัวเหมือนเจ้าพ่อ เริ่มละลายเงินหลักล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปกับบ้านหลายไร่กลางป่า ทุ่มเงินซื้อเรือยอชท์ส่วนตัว และจ่ายเงินจ้างสาว 7 คนมานอนด้วย จ้างบอดี้การ์ดหลายคนให้มาเดินตาม ซื้อหมาหลายตัวไว้เฝ้าบ้าน
John McAfee มักจะอัปเดทเรื่องราวชีวิตผ่าน Blog อยู่เสมอ ๆ แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เขาหายตัวจาก Blog ดังกล่าวไปนานกว่า 6 เดือน และใช้เวลาไปกับการนั่งมองคนเดินเข้าเดินออกบาร์ร้านประจำ และเฝ้ามองเหล่าคนจนในเมือง และสุดท้ายเขาก็กลับมาโพสต์อัปเดทชีวิตอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนกล่าวหาว่าเขาใช้นามแฝง Stuffmonger ไปตั้งกระทู้เกี่ยวกับยาเสพติดที่ชื่อว่า Bath salts หรือ MDPV ในเว็บไซต์ Bluelight เขาถูกบุกจับกุมที่บ้านในเวลาต่อมา พบเจอแค่ปืนกับเงิน แต่ไม่พบยาเสพติดตามที่สงสัย ยังไงเขาก็โดนคดีครอบครองอาวุธเถื่อน และได้รับการปล่อยตัวออกมาในเวลาไม่นาน
ในเวลาต่อมาเขาพบว่าหมาที่เขาเลี้ยงไว้ทั้งหมดถูกวางยา แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใครจึงเริ่มสืบหา ในเวลาต่อมา Gregory Faull เพื่อนบ้านที่เคยมีเรื่องบาดหมางกันเกี่ยวกับเสียงหมาเห่า นอนนิ่งเป็นศพภายในบ้านของตัวเอง John McAfee ตัดสินใจหลบหนีไปกบดานที่กัวเตมาลา และถูกตำรวจจับในกัวเตมาลา จากความผิดพลาดของสำนักข่าว Vice ที่โพสต์ภาพพร้อมกับตำแหน่ง GPS ในที่ที่เขาอยู่ ทางกัวเตมาลากำลังจะส่งตัวเขากลับไปที่เบลีซเพื่อดำเนินคดี John เกิดอาการหัวใจวายกะทันหันทำให้ต้องรีบหามนำส่งโรงพยาบาล และอาการก็เกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ไม่ถูกส่งต่อไปที่เบลีซ แต่ถูกส่งกลับอเมริกาในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตแทน
John McAfee ถูกส่งตัวกลับอเมริกา พร้อมกับข่าวฉาวเรื่องคดีฆ่าคนตาย ทำให้เขาตกเป็นข่าวอยู่เป็นประจำ ทำให้เขาถูกจับจ้องโดยสื่อต่าง ๆ แทบตลอดเวลา เขาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในปี 2013 ในวีดีโอที่ชื่อว่า "How To Uninstall McAfee Antivirus" หรือ “วิธีลบแอนตี้ไวรัส McAfee” เนื้อหาในวีดีโอเต็มไปด้วยการด่าว่าว่าโปรแกรมไม่ดี ทำให้เครื่องช้า และชักชวนให้คนลบมันออกจากเครื่อง ปัญหาคือคลิปของเขามันค่อนข้างรุนแรง มีการ เล้าโลมโดยสาวๆ ในชุดเซ็กซี่หลายคน ขณะที่กำลังอธิบายวิธีลบการติดตั้ง มีการเปลื้องผ้าโชว์ และยังทำเหมือนเสพยา และเอาปืนหลายกระบอกมาถือโชว์อยู่ จนคนไม่เชื่อว่านี่คือผู้สร้างบริษัทระดับโลก
เขาตกเป็นข่าวอีกครั้ง จากสารคดีเกี่ยวกับตัวเขาเอง “Gringo: The dangerous life of John McAfee” ซึ่งมีการเล่าว่าเขาเสพยาและข่มขืนอดีตพาร์ทเนอร์ธุรกิจ ในช่วงกลางปี 2019 เขาถูกควบคุมตัวอีกครั้ง ณ สาธารณรัฐโดมินิกัน ขณะที่ล่องเรือส่วนตัวในอ่าว Puerto Plata ด้วยข้อหาครอบครองอาวุธปืนและกระสุน แต่เขาก็ถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด
ต่อมาเขาก็เริ่มสนใจใน BitCoin และพูดถึงการชวนลงทุนในเงินดิจิทัลดังกล่าวอยู่เสมอ จนถึงกับเชิญชวนให้คนเข้าไปสมัครในเว็บไซต์เทรดสกุลเงินออนไลน์ จนในปี 2020 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐได้ออกหมายจับเขาในข้อหาเลี่ยงภาษีตั้งแต่ปี 2014 - 2018 โดย โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโตของนอมินีแทน รวมถึงซื้อทรัพย์สินอย่างบ้าน รถยนต์ เรือยอชต์ ในชื่อของบุคคลอื่น เขาถูกจับกุมในประเทศสเปนในตอนนั้น ต่อมาในช่วงวันที่ 6 มีนาคมปี 2021 อัยการสหรัฐและ FBI ตั้งข้อหาเพิ่มเติม John McAfee และพวกคือ Jimmy Watson Jr. ที่ปรึกษาบริหารของทีม Cryptocurrency ของเขา โดยโดนข้อหาเพิ่มไปอีก 7 ข้อหา ตั้งแต่การฉ้อโกง ฟอกเงิน ฯลฯ จากการหลอกให้คนมาร่วมลงทุนในเงินคริปโต ทำให้เกิดความเสียหายสูงมากถึง 13 ล้านดอลลาร์
จนถึงวันนี้ John McAfee ก็ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 75 ปี...
แหล่งที่มา reuters.com