รีเซต

'ดร.อนันต์' เผย 'สายพันธุ์มิว' เด่นเรื่องหนีภูมิคุ้มกัน หนีคนฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มได้ถึง 7.6 เท่า

'ดร.อนันต์' เผย 'สายพันธุ์มิว' เด่นเรื่องหนีภูมิคุ้มกัน หนีคนฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มได้ถึง 7.6 เท่า
มติชน
8 กันยายน 2564 ( 10:46 )
40
'ดร.อนันต์' เผย 'สายพันธุ์มิว' เด่นเรื่องหนีภูมิคุ้มกัน หนีคนฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มได้ถึง 7.6 เท่า

วันที่ 8 กันยายน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า

 

 

ไวรัสสายพันธุ์มิว มีจุดเด่นเรื่องหนีภูมิคุ้มกันครับ เพราะมีการกลายพันธุ์ที่ผสมผสานกันระหว่างสายพันธุ์เบต้า กับ แอลฟ่า ข้อมูลล่าสุดที่ทีมวิจัยในญี่ปุ่นเปิดเผยออกมา ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจจะหนีภูมิได้พอๆ หรือ ดีกว่า เบต้าของแอฟริกาใต้ จากข้อมูลของทีมวิจัยพบว่า มิวหนีภูมิจากซีรั่มของผู้เคยติดเชื้อได้ 12.4 เท่า (เบต้าได้ 8.2 เท่า) และหนีภูมิจากซีรั่มคนฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มได้ 7.6 เท่า (เบต้าได้ 6.3 เท่า)

 

 

แต่การกระจายตัวของมิวในปัจจุบันยังห่างไกลจากเดลต้ามาก ทำให้ประเด็นเรื่องการแพร่กระจายของมิวในกลุ่มประชากรจึงไม่น่ากังวลมาก

 

 

แต่จากข้อมูลที่ทางญี่ปุ่นเผยแพร่ออกมาทำให้ผมมีคำถามที่อยากติดตามต่อคือ ในประเทศที่มีภูมิคุ้มกันต่อเดลต้าสูงมากๆอย่างอินเดีย จะมีโอกาสที่มิวจะเข้าไปหนีภูมิ และ สร้างปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน ข้อมูลตรงนี้จะมีความหมายเพราะ ช่วงหนึ่งเดลต้าก็อาจจะลดลงเพราะแพร่กระจายไว ภูมิต่อเดลต้าก็จะมีมาก ไวรัสตัวที่จะมาแทนคือ ตัวที่หนีภูมิจากเดลต้าได้ดี และ มีความแพร่กระจายไวในระดับหนึ่งด้วย (มิวอาจได้คุณสมบัตินี้จากแอลฟ่ามา) ดังนั้น มิวจึงเป็นอีกตัวที่ต้องจับตามองดีๆครับ

 

 

ที่มา https://www.biorxiv.org/content/10.1101/2021.09.06.459005v1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง