โลกเผชิญ “ภาวะลมสงบ” เมื่อกังหันหยุดหมุน โลกอาจสะดุดพลังงาน

31 กรกฎาคม 2568 ( 13:00 )
17
ในขณะที่พลังงานลมกลายเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานสะอาดของโลก ปรากฏการณ์ “ภาวะลมสงบ” หรือช่วงเวลาที่ลมพัดอ่อนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน กำลังกลายเป็นความท้าทายใหม่ที่ผู้วางนโยบาย นักพัฒนาโครงข่าย และนักวิจัยต้องหันมาให้ความสนใจ
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารNature Climate Changeชี้ว่า ภาวะลมสงบมีแนวโน้มจะยาวนานขึ้นประมาณ 5–15% ภายในสิ้นศตวรรษนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ละติจูดกลางของซีกโลกเหนือ เช่น สหรัฐอเมริกา จีนตอนบน รัสเซีย และยุโรป ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของแหล่งพลังงานลมโลก การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ “Arctic amplification” ที่ทำให้อุณหภูมิบริเวณขั้วโลกเหนือเพิ่มขึ้นเร็วกว่าพื้นที่อื่น ๆ ส่งผลให้ความต่างของอุณหภูมิระหว่างเส้นศูนย์สูตรกับขั้วโลกลดลง และทำให้ความเร็วลมเฉลี่ยลดลงตามไปด้วย
ภาวะลมสงบไม่เพียงแต่ส่งผลต่อปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จากกังหันลม แต่ยังสร้างความผันผวนในตลาดพลังงาน ทำให้ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานสำรองที่มีต้นทุนสูงกว่า เช่น พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งบั่นทอนความมั่นคงของระบบพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มความเสี่ยงด้านราคาพลังงาน โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ “Dunkelflaute” หรือ “ช่วงมืดสงบ” ที่เกิดในเยอรมนีช่วงฤดูหนาว 2024–25 ซึ่งมีทั้งอากาศหนาวจัดและลมสงบติดต่อกัน ทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้มองว่าอนาคตของพลังงานลมกำลังตกอยู่ในอันตราย หากแต่เสนอแนวทาง “การปรับตัวเชิงระบบ” เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น เช่น การผสมผสานพลังงานลมเข้ากับพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ นิวเคลียร์ และการกักเก็บพลังงาน รวมถึงการลงทุนในโครงข่ายส่งไฟฟ้าระดับภูมิภาค เพื่อให้สามารถถ่ายโอนพลังงานจากพื้นที่ที่มีลมแรงกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น การเชื่อมโยงสายส่งระหว่างอังกฤษกับสเปน ซึ่งลักษณะของลมมักจะกลับทิศกัน
สุดท้ายนี้ ภาวะลมสงบอาจไม่ได้เป็น “วิกฤต” ของพลังงานลม หากแต่เป็น “บททดสอบ” ที่จะผลักดันให้เราสร้างระบบพลังงานหมุนเวียนที่มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น และพร้อมรับมือกับความแปรปรวนของสภาพอากาศอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
