กองทัพเรือเพิ่มมนุษย์กบ ช่วยค้นหาผู้สูญหาย ขณะเรือหลวงบางระจัน ถ่ายภาพเรือเพื่อเตรียมพร้อมกู้เรือเสร็จแล้ว
ประจวบคีรีขันธ์ กองทัพเรือเพิ่มมนุษย์กบ ช่วยค้นหาผู้สูญหาย ขณะที่เรือหลวงบางระจัน ถ่ายภาพเรือเพื่อเตรียมพร้อมกู้เรือเสร็จแล้ว ถอนกำลังวันนี้
วันนี้ 29 ธันวาคม 2565 พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศรชล.ภาค1 เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่มเติม โดยยืนยันผลตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลล่าสุดค่ำวานนี้ 2 ร่าง คือ พ.จ.อ.คุณากร จริยศ หรือ หมอแชมป์ แพทย์ประจำเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งยืนยันผลตรวจ DNA.จากฟันและรอยสักที่หลัง และ พลทหาร ชลัช อ้อยทอง ส่วนที่เหลืออีก 2 ร่าง ที่ศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สภ.บางสะพาน รอตรวจพิสูจน์ DNA. อีก 2 ร่าง
ทั้งนี้กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยทั้งหมด 105 นาย รอดชีวิต 76 นาย โดยมีกำลังพลที่เสียชีวิตที่ทราบชื่อและทำพิธีไปแล้ว 20นาย ทราบชื่อและรอทำพิธี 2 นาย รอพิสูจน์ DNA. 2 นาย และต้องค้นหาในทะเลอีก 5 นาย
ขณะที่เช้านี้การตรวจพบ การค้นพบโดย ศรชล. จ.ชุมพร พบโดมสื่อสารของเรือหลวงสุโขทัย ที่บริเวณเกาะเต่า เรือตำรวจน้ำได้ทำการเก็บกู้ ซึ่งจะส่งไปเก็บไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 44
สำหรับการปฎิบัติในทะเล หมู่เรือช่วยเหลือที่ 1 มีเรือหลวง 4 ลำ ได้แก่ เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงนราธิวาส โดยจะโพกัสพื้นที่ใกล้ฝั่ง ยกเว้นเรือหลวงตากสินจะลาดตระเวนพื้นที่ใกล้เคียงเรือหลวงสุโขทัย คือในเซ็กเตอร์ที่ 4, 2และ2A ส่วนเรือหลวงกระบุรี อยู่ที่ 5,5A เรือหลวงนราธิวาส พิกัด 5A,9A เรือ ต.114 อยู่ในพื้นที่ 9A เรือหลวงนเรศวร อยู่ในพื้นที่ 9 ขณะที่อากาศยานและ UAV ยังคงพื้นี่ลาดตระเวนเหนือพิกัดของเรือหลวงในพื้นที่เป้าหมาย โดยโฟกัสไปในพื้นที่ที่คาดว่าจะพบผู้สูญหายที่เหลือ
โดยการปฏิบัติการพิเศษในวันนี้คือ ได้จัดชุดปฎิบัติการพิเศษ (ชปพ.)จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือหน่วยซีล (SEAL) เพิ่ม 2 ชุด โดยมีกำลัง 28 นาย พลสนับสนุน 2 นาย เรือความเร็วสูง 1 ลำพร้อมเรือยางท้องแข็ง ของมนุษย์กบ 4 ลำ โดยเข้าปฏิบัติหน้าที่ในพิกัดสำคัญคือ จ.ชุมพร ในบริเวณเกาะเสม็ด เกาะสาก หาดผาแดง เกาะมะพร้าว เกาะละวะ เกาะมาตรา และเกาะกา ส่วนทางเท้าตั้งแต่บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธื ถึง บ้านดอน จ.สุราษฎ์ธานี กำลังพลไม่ลดลง แต่เพิ่มมนุษย์กบเข้ามาเสริมกำลัง โดยความตั้งใจคือต้องหาครอบครัวเราให้ครบทุกคน ซึ่งอีก5นายที่เหลือ ยังคาดหวังว่า จะเป็นเคสเขียวอยู่บ้าง
“กรณีที่ตนได้เข้าพูดคุยกับชาวบ้าน เป็นการขอบคุณที่มาร่วมสนับสนุนภารกิจ ขณะที่ครอบครัวกำลังพลนั้น ตนเข้าพบเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยหวังว่าจะแบ่งรับความทุกข์กลับมาบ้าง แม้จะไม่มาก และทดแทนกันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ได้รับรู้ความทุกข์กลับมาบ้าง ถึงแม้ว่าตนจะไม่ใช่ผู้ปฎิบัติ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นภาพของกองทัพเรือ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือเรือหลวงสุโขทัย ทั้งหมดคือกองทัพเรือ ตนได้ขอโทษทุก ๆ ครั้ง กับญาติ ๆ และครอบครัวทุกครอบครัว เหตุการณ์ครั้งนี้เสียหายใหญ่หลวง มีอย่างเดียวคือต้องขอโทษ ผมขอโทษทุกวัน” ผบ.ทรภ.1 กล่าว
ส่วนหมู่เรือช่วยเหลือที่ 2 ซึ่งมีเรือหลวงบางระจันและเรือหลวงราวีเป็นกำลังสำคัญนั้น วันนี้เรือหลวงบางระจันจะเสร็จภารกิจในการถ่ายภาพเรือหลวงสุโขทัย โดยเป็นการบันทึกภาพรอบเรือ เพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์และเตรียมการเก็บกู้เรือ ซึ่งทางกองทัพเรือ ได้มอบหมายให้กองเรือยุทธการเป็นผู้ดำเนินการ โดยเรือหลวงบางระจันจะถอนตัวเพื่อไปปฎิบัติภารกิจในฐานะกองเรือทุ่นระเบิดในพื้นที่ฝั่งอันดามันแทน ส่วนเรือหลวงราวีและนักประดาน้ำยังคงปฎิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายที่บริเวณเรือหลวงสุโขทัยต่อ ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพเรือ มีความเป็นห่วงเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่บนเรือโดยเฉพาะอาวุธยุทโทปกรณ์ ที่อาจจะได้รับความเสียหาย ซึ่งเรือหลวงที่ออกปฏิบัติการยังทำหน้าที่เฝ้าระวังด้วย แม้แต่กลางคืน เพื่อเฝ้าระวังผู้ที่อาจจะเข้ามาในพิกัดที่ เรือหลวงสุโขทัยอับปางด้วย