รีเซต

CGSI อัพเป้าใหม่ "MINT" เป็น 39 บ. โรงแรมในเอเชีย-ยุโรป หนุนกำไรโตต่อเนื่อง

CGSI อัพเป้าใหม่ "MINT" เป็น 39 บ.  โรงแรมในเอเชีย-ยุโรป หนุนกำไรโตต่อเนื่อง
ทันหุ้น
20 กุมภาพันธ์ 2568 ( 11:06 )
11

#ทันหุ้น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าในไตรมาส 4/67 MINT ทำกำไรสุทธิ 3,632 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 269% yoy และเพิ่มขึ้น 23 เท่า qoq  สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ 16% และสูงกว่า Bloomberg consensus 9% เนื่องจากธุรกิจโรงแรมมีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงกว่าคาด และบริษัทมีอัตราภาษีเพียง 3% (เทียบจาก 42% ในไตรมาส 4/66 และ 69% ในไตรมาส 3/67) ผลจาก NH Hotel ซึ่ง MINT ถือหุ้น 96% ได้เครดิตภาษีบางส่วนจากธุรกิจในสเปน

 

ทำให้ทั้งปี 67 MINT มีกำไรสุทธิรวม 7,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% yoy แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ MINT จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 6,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% yoy

 

ในไตรมาส 4/67 MINT มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 3% yoy เนื่องจากอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น 1% เป็น 69% ขณะที่อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยยังทรงตัว yoy จึงทำให้รายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) เพิ่มขึ้น 3% yoy ส่วน GPM ของธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37.4% ดีกว่าที่คาดไว้และสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 35.5% ในไตรมาส 4/66  และ 38.8% ในไตรมาส 3/67 ขณะที่ปี 68 นี้ ฝ่ายวิเคราะห์ฯประมาณการว่ารายได้จากธุรกิจโรงแรมจะเติบโต 8% yoy  เทียบกับ 10% yoy ในปี 67 เพราะมองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะขยายตัวลดลง

 

สำหรับธุรกิจอาหารในไตรมาส 4/67 มีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบ 2.5% yoy และอัตราการเติบโตของยอดขายรวม (TSSG) บวก 2.6% yoy โดยธุรกิจอาหารในจีนและออสเตรเลียยังคงฉุด SSSG โดยรวมในไตรมาสนี้อยู่ เพราะยังมี SSSG ติดลบ 7.7% และติดลบ 1.2% ตามลำดับ ส่วนธุรกิจอาหารในไทยมี SSSG บวก 1.5% yoy และ TSSGบวก 7.8% yoy

 

ขณะเดียวกันพบว่าธุรกิจอาหารมี GPM ต่ำกว่าคาดที่ 68.2%  ซึ่งต่ำกว่า 68.7% ในไตรมาส 3/67 และ 69.3% ในไตรมาส 4/66 ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ฯจึงประมาณการว่าธุรกิจอาหารของ MINT จะมี SSSG และ TSSG อยู่ที่ลบ 1% และบวก 1% ในปี 68  เทียบกับ ลบ 2.2% และ บวก 2% ในปี 67 ตามลำดับ

 

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังแนะนำ “ซื้อ” เพราะเชื่อว่า MINT จะมีกำไรเติบโตแข็งแกร่งในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จากผลประกอบการของโรงแรมในเอเชียและยุโรป จึงปรับประมาณการ EPS ปี 68-69 ขึ้น 5-9% ส่งผลให้ราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 39 บาท จากเดิม 35 บาท แต่ยังเท่ากับ EV/EBITDA 8.8เท่าในปี 69 หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี โดยมี downside risk หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรงและเงินเฟ้อสูงขึ้น อาจทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้น และมี upside risk หากดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญและธุรกิจอาหารในจีนและออสเตรเลียมีผลประกอบการฟื้นตัวแข็งแกร่ง

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง