กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับ 'โจมตีพลาด' สังหารสิบชีวิตผู้บริสุทธิ์ในอัฟกานิสถาน
วอชิงตัน, 18 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับกรณีส่งโดรนก่อเหตุโจมตีในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ทำให้พลเรือนเสียชีวิตมากถึง 10 ราย ซึ่งในนั้นเป็นเด็ก 7 ราย
เคนเนธ แมกเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แถลงข่าว ณ กระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอนว่า "จากการทบทวนผลการสอบสวนและการวิเคราะห์เพิ่มเติมโดยพันธมิตรระหว่างหน่วยงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน ผมเชื่อว่ามีพลเรือนอัฟกานิสถานมากถึง 10 คน ซึ่งในนั้นเป็นเด็ก 7 คน ถูกสังหารอย่างน่าสลดใจในการโจมตีครั้งนั้น"
"ตอนนี้เราประเมินว่ารถยนต์ที่ถูกโจมตีคันดังกล่าวและผู้ถูกสังหารไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอซิส-เค (ISIS-K) หรือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อกองกำลังสหรัฐฯ" แมกเคนซีกล่าว พร้อมยอมรับว่าการโจมตีนี้เป็นความผิดพลาดอันน่าสลดใจ และผมขอรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในฐานะผู้บัญชาการ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ เผยการส่งโดรนโจมตีรถยนต์คันหนึ่งในคาบูล เพื่อป้องปรามภัยคุกคามที่กำลังจะเกิดจากฝีมือกลุ่มไอซิส-เค ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิส (ISIS) ในอัฟกานิสถาน บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด การ์ไซ ซึ่งกำลังมีการอพยพเจ้าหน้าที่และถอนกำลังทหารสหรัฐฯ
มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ เรียกการโจมตีดังกล่าวว่า "การโจมตีโดยชอบธรรม" ที่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง โดยต่อมาสื่อมวลชนรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯ อาจโจมตีเป้าหมายผิดพลาด และคร่าชีวิตพลเรือน
การสืบสวนของหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส และการสืบสวนของหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่าคนขับรถยนต์คันดังกล่าวคือซีมาไร อาห์มาดี วิศวกรไฟฟ้า วัย 43 ปี ที่ทำงานให้องค์กรโภชนาการและการศึกษานานาชาติ (NEI) ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในเมืองแพซาดีนาของรัฐแคลิฟอร์เนีย
"ตอนนี้เรารู้แล้วว่าไม่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างนายอาห์มาดีและกลุ่มไอซิส-เค" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) พร้อมระบุว่ากิจกรรมของอาห์มาดีในวันนั้นไม่มีอันตรายใดๆ และไม่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามที่สหรัฐฯ เชื่อว่าจะเผชิญเลย โดยนายอาห์มาดีเป็นเพียงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ เฉกเช่นเดียวกับที่คนอื่นๆ ถูกสังหาร
"เราขอโทษ และเราจะพยายามเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้" ออสตินกล่าว โดยเสริมว่าเขาขอให้มีการทบทวนการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาว่าจำเป็นต้องมี "มาตรการรับผิดชอบ" หรือไม่ รวมถึงการปรับเปลี่ยนหน่วยโจมตีและระเบียบการต่างๆ ในอนาคตข้างหน้า
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. กองบัญชาการกลางประกาศว่าการถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานเสร็จสิ้น และภารกิจของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานที่ยาวนาน 20 ปี สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากปิดฉากการอพยพที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สหรัฐฯ ประกาศ "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย" และบุกอัฟกานิสถานในปี 2001 หลังจากผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์จี้เครื่องบินโดยสารและโจมตีสหรัฐฯ แบบพลีชีพ คร่าชีวิตพลเรือนในสหรัฐฯ เกือบ 3,000 ราย
ทั้งนี้ แอร์วอส์ (Airwars) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ติดตามและบันทึกข้อมูลสงครามทางอากาศระหว่างประเทศกับกลุ่มไอซิสและกลุ่มอื่นๆ ระบุว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ขยายการทำสงครามไปยังประเทศอื่นๆ โดยใช้โดรนโจมตีอย่างหนักเพื่อสังหารเป้าหมาย ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนอย่างน้อย 22,000 ราย ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา