KTAM ชี้เป้าธีมเด่นน่าลงทุนในโค้งสุดท้ายปีนี้ คาดดัชนีหุ้นไทย 1,350 จุด

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมองสถานการณ์เศรษฐกิจ การลงทุนและตลาดเงินเริ่มคลี่คลายลง เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ ส่งผลให้สินทรัพย์การลงทุนฟื้นตัวขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมกองทุนในไทยขยายตัวได้ราวร้อยละ 7 ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของ KTAM ปัจจุบันก็สามารถขยายตัวดีขึ้น สามารถขยายตัวมาแตะระดับ 1.007 ล้านล้านบาททำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ได้
ส่วนมุมมองการลงทุนในหุ้นระยะถัดไป ในช่วงที่เหลือของปี 2568 ถึงต้นปี 2569 น่าจะยังได้ประโยชน์จากแนวโน้มเฟดจะลดดอกเบี้ย สะท้อนจากดัชนี MSCI ACWI เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ถึงปัจจุบัน แม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอลง แต่ไม่รุนแรง ซึ่งยังต้องติดตามการตัดสินของศาลสูงสุดในเรื่องอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐในการจัดเก็บภาษี Tariff , การส่งผ่านภาษี Tariff ไปยังผู้บริโภค , ตลาดแรงงานสหรัฐ ,นโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ , ปัญหาการขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ,ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ดังนั้น ในหุ้นต่างประเทศแนะนำให้กระจายลงทุน แม้ตลาดอาจผันผวนบ้าง ซึ่งเด่นใน 3 ธีมผ่าน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม ออล เอเชีย แปซิฟิก อิควิตี้ ฟันด์ (KT-AASIA) เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ,กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ ฟันด์ (KT-WTAI) เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จาก AI รวมทั้งเทคฯจีน , และกองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ ฟันด์ (KT-US) เน้นลงทุนหุ้นของบริษัทในสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมองว่าตราสารหนี้ทั้งในไทยและต่างประเทศก็ยังน่าสนใจ จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง คาดดอกเบี้ยสหรัฐจะลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ดอกเบี้ยไทย มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยลงได้อีกในปี 2568 นี้ และในปี 2569 โดยคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยนโยบายอาจจะไปสิ้นสุดที่ร้อยละ 1 แนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ บอนด์ ฟันด์ (KT-BOND) ที่กระจายพอร์ตการลงทุนในตราสารหนี้ในสกุลเงินหลักของโลกที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้
ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย แนะนำ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้นพลัส (KTSTPLUS) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารทางการเงินซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ โดยเฉลี่ยอายุตราสารไม่เกิน 1 ปี และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ พลัส (KTFIXPLUS) ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ KTAM ยังมองบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย คาดดัชนีหุ้นไทย ( SET Index) สิ้นปี 2568 นี้จะอยู่ระดับ 1,350 จุด โดยมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2568 นี้คาด GDP ไทยจะโตได้ที่ร้อยละ 2.2 ปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.9 โดยเชื่อว่าหุ้นกลุ่มปันผลสูง หุ้นได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาลน่าสนใจสามารถทยอยลงทุนได้ ซึ่งแนะนำ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย สมาร์ท อิควิตี้ ฟันด์ (KTEF) ที่เน้นลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด โดยจะลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจสู และกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ (KT-HiDiv) ( เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนใน SET ที่มีปัจจัยพื้นฐานผลการดำเนินงานที่ดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมอ
"หุ้นไทยยังไปต่อได้ยังมีโอกาสเติบโตต่อ เราเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เพราะจะเคยเห็นกันอยู่แล้วว่าหุ้นไทยเคยลงไปเยอะมาก ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเข้ามาใกล้ๆ สมดุล ด้วยแวร์ลูเอชั่นที่แท้จริงยังไปต่อได้ ยังมีแก็ปอยู่ในส่วนนั้น ส่วนการลงทุนในต่างประเทศอยากให้กระจายออกไปในแต่ละภูมิภาค เราเชื่อว่า ช่วงนี้ไตรมาส 4 นี้ ตลาดจะมีความผันผวนบ้าง ในส่วนของสหรัฐ หรือในทุกประเทศ เขาเรียกว่าเป็นช่วงเงินไม่นิ่ง การหาจังหวะลงทุนจึงน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ให้ทยอยลงทุน " นางชวินดา กล่าว
ขณะที่ การลงทุนในทองคำที่ราคาปรับขึ้นมาสูง มองว่ายังสามารถทยอยลงทุนได้เช่นกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ต แต่การเข้าลงทุนควรรอราคาย่อค่อยทยอยสะสม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
