รีเซต

คมนาคม ไฟเขียวเวนคืน 1.89 ไร่ ย่านสุวรรณภูมิ เปิดทางตีโค้งไฮสปีดเทรนอีอีซี ชี้รื้อย้ายบุกรุกเหลือแค่ 2 หลัง

คมนาคม ไฟเขียวเวนคืน 1.89 ไร่ ย่านสุวรรณภูมิ เปิดทางตีโค้งไฮสปีดเทรนอีอีซี ชี้รื้อย้ายบุกรุกเหลือแค่ 2 หลัง
มติชน
20 มกราคม 2564 ( 17:43 )
43
คมนาคม ไฟเขียวเวนคืน 1.89 ไร่ ย่านสุวรรณภูมิ เปิดทางตีโค้งไฮสปีดเทรนอีอีซี ชี้รื้อย้ายบุกรุกเหลือแค่ 2 หลัง

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ครั้งที่ 1/2564

 

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ครั้งที่ 1/2564 (ครั้งที่ 12) โดยมี ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงบประมาณ กระทรวงพลังงาน กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

 

การประชุมครั้งนี้ เป็นการรับทราบและติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานของคณะทำงานฯ ได้แก่ การขอใช้พื้นที่ของกรมทางหลวงและเวนคืนพื้นที่บริเวณทางออกสุวรรณภูมิ ซึ่งรูปแบบแนวเส้นทางของโครงการรถไฟความเร็วสูงขาออกจากสถานีสุวรรณภูมิไปยังอู่ตะเภาจะก่อสร้างอยู่ระหว่างโครงสร้างของโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เดิมกับถนนต่างระดับขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกรมทางหลวง และต้องมีการเวนคืนพื้นที่ในช่วงทางโค้งเข้าบรรจบกับทางวิ่งหลัก โดยมีการเวนคืนพื้นที่ 1 ไร่ 89 ตารางวา ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามแนวทางดังกล่าว โดยเอกชนคู่สัญญาตกลงปรับรูปแบบโครงสร้างบริเวณจุดตัดทางต่างระดับ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างทางยกระดับศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (M7) ตามที่กรมทางหลวงออกแบบ

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรค และแนวทางดำเนินการของฝ่ายรัฐ ได้แก่ การรังวัดโฉนดที่ดินในเขตตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน การทำสัญญาจ่ายค่าทดแทนการเวนคืน การขอใช้พื้นที่หน่วยงานรัฐในพื้นที่เวนคืน ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยประสานงานกับหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้

 

ส่วนการโยกย้ายผู้บุกรุกในช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จากทั้งหมด 302 หลัง ได้ดำเนินการไปแล้ว 300 หลัง และฝ่ายเอกชนได้เริ่มดำเนินการล้อมรั้วเพื่อป้องกันผู้บุกรุกแล้ว และให้การรถไฟแห่งประเทศไทยติดตามตรวจสอบไม่ให้มีประชาชนบุกรุกเข้าพื้นที่ พร้อมทั้งให้รายงานต่อที่ประชุมทุกๆ เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง