รีเซต

“นายกฯ” เน้นย้ำส่วนท้องถิ่น ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โปร่งใส เป็นธรรม เท่าเทียม

“นายกฯ” เน้นย้ำส่วนท้องถิ่น ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โปร่งใส เป็นธรรม เท่าเทียม
มติชน
10 มีนาคม 2565 ( 11:58 )
57

“นายกฯ” เน้นย้ำส่วนท้องถิ่นร่วมบูรณาการการทำงาน มุ่งผลสัมฤทธิ์ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐ ส่งเสริมความเป็นธรรมและเท่าเทียม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมและการสัมมนาทางวิชาการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2565 ประจำปี พ.ศ. 2565 ผ่านระบบ Video Conference โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล บุคลากรของเทศบาล เข้าร่วมประชุมในรูปแบบออนไลน์ ที่อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 2 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทุกคนเข้าใจดีว่าเทศบาลถือเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญ ในบริหารการบริหารราชการแผ่นดินมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง มีความใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชุมชน รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานราชการอื่นๆ ในการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ตนขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณทุกคน ที่ร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดี ในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงการแก้ปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย การบริหารจัดการขยะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทยทั้งสิ้น

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เทศบาลมีบทบาทสำคัญ ในการบำรุงรักษาและพัฒนาท้องถิ่น ให้เกิดความเรียบร้อย และรัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น วางแผนงานส่งเสริมให้ท้องถิ่น มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งเน้นการบูรณาการทำงานร่วมกัน ระหว่างส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศนั้นสอดคล้องกัน ทั้งต้นทางและปลายทาง โดยในการประชุมในวันนี้ ถือว่าเป็นโอกาสอันดียิ่ง เป็นสิ่งสำคัญที่จะได้รับฟังและนำความความรู้ต่างๆ จะได้รับจากวิทยากรทุกคน มาใช้ในการเป็นแนวทางปฏิบัติหน้าที่ของตน

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ซึ่งถือเป็นแผนระดับชาติที่มีความสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งการบริหารประเทศทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ต้องทำงานให้ประสานสอดคล้องกัน ทั้งแผนงาน แผนเงิน และแผนคน ช่วยกันลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในทุก ๆ ด้าน เช่น ความยากจน การศึกษา ที่อยู่อาศัย โดยจัดลำดับความเร่งด่วนของปัญหาและแผนงานต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐ โดยบูรณการการทำงานให้ตรงกับความต้องการของประชาชนให้ได้มากที่สุด ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน สิ่งสำคัญที่สุดคือความโปร่งใส เป็นธรรม และเท่าเทียม ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในระยะที่ผ่านมา อีกทั้งปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ปัญหาเรื่องการจัดการขยะ รวมทั้งปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทย ขอให้ทุกคนมีพลังกาย พลังใจ และพลังสติปัญญาที่สมบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเข้มแข็งต่อไป

 

“รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพ สร้างกลไกเครือข่ายความร่วมมือการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น บูรณาการในการขับเคลื่อนภารกิจ การพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่ให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายของรัฐบาลโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างครอบคลุม ทั่วถึงและเท่าเทียม โดยการประชุมและการสัมมนาทางวิชาการสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2565 ประจำปี พ.ศ. 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรของเทศบาลได้เสวนาแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่และการพัฒนาท้องถิ่นให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาระดับประเทศและระดับสากล พัฒนาบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาล รวมทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับและร่วมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง