"อดีตทูต" เผยกรณีโพสต์เรื่องกม.ระหว่างประเทศกรณีอียิปต์-ซูดานนั้น แค่ชี้แจงข้อมูล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่อยู่ที่วิจารณญาณ
“อดีตทูต” เผยกรณีโพสต์เรื่องกม.ระหว่างประเทศกรณีอียิปต์-ซูดานนั้น แค่ชี้แจงข้อมูล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่อยู่ที่วิจารณญาณ
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีที่ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ อธิบายในประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยระบุว่าเป็นเรื่องมีความซับซ้อน และละเอียดอ่อนที่คนไทยยังไม่ทราบ นั้นปรากฎว่าสุดมีการแชร์ไปแล้วบางรายก็ด่าว่าเชื่อถือไม่ได้นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค.63 นายนริศโรจน์ ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งโดยระบุว่า
“เอ้า มาอีกรายแล้ว แชร์เพจผมไปด่าบอกว่า ที่ผมเขียนอธิบายเรื่องกฏหมายระหว่างประเทศ กรณีอียิปต์ ซูดาน เชื่อถือไม่ได้ เพราะผมไม่ได้อ้างถึงกฏอนามัยระหว่างประเทศ
โถ…เขาคงไม่ได้ตามข่าวว่า กต.และ ศบค. เขาทำงานประสานสอดรับกันในเรื่องนี้ โดยเท่าที่ทราบ กต.ก็เวียนแจ้ง คณะทูตว่าในกรณีที่บุคคลในคณะทูต หรือ สมาชิกในครอบครัวคณะทูต ก่อนเข้าประเทศไทยจักต้องไปตรวจหาเชื้อ และมีใบรับรองแพทย์ก่อนถึงจะขึ้นเครื่องมาได้
และเมื่อมาถึงแล้วก็ต้องผ่านการคัดกรองที่สนามบินอีกชั้นหนึ่ง ถึงแม้จะไม่สามารถรับประกันได้ 100 % แต่ก็เป็นมาตรการเบื้องต้นที่เป็นระเบียบของรัฐผู้รับ (ประเทศไทย) ใช้บังคับทุกคน ซึ่งคณะทูตและครอบครัวที่เข้ามาทั้งหมดก็ปฏิบัติตามกฏหลักอนามัยนี้ ยกเว้นเพียงการ SQ ที่เขาขอ SQ ในที่พักของเขาซึ่งมีเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน
กรณีเด็กซูดานในเบื้องต้นเขาก็ผ่านเกณฑ์อันนี้ ถึงสามารถขึ้นเครื่องบินมาได้ (เพราะถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ก็ขึ้นเครื่องบินไม่ได้)
ตามข่าวสื่อไทยอ้างว่าตรวจพบเจอเชื้อที่สนามบินแต่เนื่องจากเป็นคณะทูตจึงปล่อย !!?? (ฟังดูตลกๆ)
แต่แหล่งข่าวที่เพื่อนผมเป็นหมอก็บอกว่าการตรวจเชื้อทางแล็บจริงๆต้องอย่างน้อย 2 วันให้หลังถึงรู้ผล
ดังนั้นเมื่อเขามาถึงแล้ว ถ้าผ่านเกณฑ์เบื้องต้นแล้ว จะให้เขาเคว้งที่ไหนล่ะครับ เขาก็ต้องไปพักที่บ้านพักของเขา จนทราบว่าติดเชื้อแน่นอนที่บ้านพักจึงถูกนำส่งไปรักษาที่ รพ.
(ข้อมูลนี้ผมไม่ขอยืนยันนะครับว่าใครถูกต้องที่สุด เพราะกระแสข่าวทั้งจริงทั้งมั่วมันออกมามากเกินไป เอาเป็นว่าเด็กมาเจอการติดเชื้อหลักๆที่บ้านพักละกัน)
ตรงนี้แหละที่ทั้งกฏอนามัยระหว่างประเทศ และกฏหมายระหว่างประเทศที่เราใช้กับคณะทูต มัน blend กันอยู่ในขั้นตอนต่างๆเหล่านี้
ในส่วนของลูกเรือเที่ยวบินพิเศษของอียิปต์ก็ทำนองคล้ายกันกับเด็กซูดาน ทางสถานทูตอียิปต์ก็ยืนยันว่าได้ทำการตรวจและมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ ตามที่ฝ่ายไทย request เพื่อให้เป็นไปตามกฏอนามัยระหว่างประเทศ ซึ่งพวกเขาก็ผ่านเกณฑ์ถึงขึ้นบินได้
อย่าลืมว่าเขาต้องไปจีนต่อ ดังนั้นเขาต้องผ่านเกณฑ์ระเบียบอนามัยทั้งของไทยและของจีนด้วย
ส่วนตอนเมื่อมาถึงอู่ตะเภาทาง ทร.ก็ยืนยันว่าตรวจตามเกณฑ์แล้วก็ไม่พบเชื้อ พวกเขาจึงทะยอยไปที่ รร.ได้
ยังไม่พอทางฝ่ายไทยก็ยังไม่ชัวร์ จึงตามไปขอตรวจแบบผลแล็บที่ รร.อีกครั้ง ดังปรากฏตามคลิป ซึ่งตอนแรกพวกเขางอแง ทางฝ่ายไทยจึงต้องให้จนท.สถานทูตอียีปต์มาช่วยเจรจา จนสามารถตรวจแล็บพวกเขาได้ และได้กำชับให้พวกเขาอยู่แต่ใน รร. ตรงนี้ฝ่ายไทยก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง
แต่ทว่าอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะผ่านเกณฑ์การตรวจเบื้องต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ติดเชื้อ จนกว่าผลตรวจทางแล็บจะออกมายืนยันจริงๆ
ซึ่งกรณีแบบนี้คนไทยที่มาจากต่างประเทศก็ตรวจเจอจากผลแล็บภายหลัง ขนาดผ่านขั้นตอนตามกฏอนามัยระหว่างประเทศทุกอย่างจนเดินทางกลับไทยได้แล้ว แต่ไม่แสดงอาการ จนผลแล็บออกมา ตามที่เราได้ยินแถลงจาก ศบค.บ่อยๆ
ดังนั้น ที่แชร์เพจผมไปด่าแล้วบอกว่าเชื่อถือไม่ได้นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะครับ ผมไม่ได้บอกให้เชื่อ ผมแค่ชี้แนะหรืออธิบายแง่มุมให้ฟัง
ส่วนการที่ผมไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องกฏอนามัยระหว่างประเทศนั้น เพราะผมคิดว่ามันซ่อนอยู่ในขั้นตอนที่ทุกคนก่อนเข้าประเทศไทยต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ผมจึงอธิบายเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับกฏหมายระหว่างประเทศ ในส่วนของเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่เราต้องให้แก่คณะทูตตามอนุสัญญากรุงเวียนนาที่เราให้สัตยาบันไว้
จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ”