รีเซต

Chrome ปรับดีไซน์โลโก้ครั้งแรกในรอบ 8 ปี บนระบบปฏิบัติการ iOS, Mac และ Windows

Chrome ปรับดีไซน์โลโก้ครั้งแรกในรอบ 8 ปี บนระบบปฏิบัติการ iOS, Mac และ Windows
TNN ช่อง16
7 กุมภาพันธ์ 2565 ( 01:03 )
112
Chrome ปรับดีไซน์โลโก้ครั้งแรกในรอบ 8 ปี บนระบบปฏิบัติการ iOS, Mac และ Windows

Google Chrome เว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกปรับดีไซน์โลโก้ครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับจากการปรับดีไซน์โลโก้ครั้งล่าสุดในปี 2014 การปรับดีไซน์ในครั้งนี้เป็นผลงานการออกแบบของดีไซเนอร์ Elvin Hu และทีมงานดีไซเนอร์ที่เปิดเผยรายละเอียดผ่านทาง Twitter โปรไฟล์ส่วนตัว ด้วยการออกแบบที่ปราณีตในรายละเอียดหากไม่สังเกตอาจมองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างโลโก้แบบเก่าและแบบใหม่


หากเปรียบเทียบกับโลโก้ Google Chrome เวอร์ชันปี 2008 สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของโลโก้จากยุคแรก ๆ ที่มีความโค้งมันวาวของแสงสีรูปทรง 3 มิติ จนกระทั่งในช่วงปี 2011 และ 2014 โลโก้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะที่สีสันสดใสแต่มีความเรียบง่ายตามการเปลี่ยนแปลงงานดีไซน์หลักของบริษัท Google ที่เริ่มใช้สไตล์ที่เรียกว่า Material Design


สำหรับโลโก้ Google Chrome เวอร์ชันใหม่ปี 2022 มีความแตกต่างจากเวอร์ชันปี 2014 เล็กน้อยโดยนำเอาส่วนที่เป็นเงาบนโลโก้ออกทั้ง 3 ด้าน สีสันมีความสดใสมากขึ้นและมีการขยายวงกลมสีน้ำเงินด้านในให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้ใช้งานที่มาขึ้นและสามารถแยกความแตกต่างระหว่างโลโก้ของ Google Chrome และโลโก้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Google


นอกจากนี้ดีไซเนอร์ Elvin Hu ยังเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมที่พบว่าโลโก้ Google Chrome มีดีไซน์แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละระบบปฏิบัติการ เช่น กรณีระบบปฏิบัติการ Windows โลโก้จะมีการไล่เฉดสี Gradients ระหว่างค่าตัวเลข 500 และ 600 บนค่าสีทั้ง 3 สี ระบบปฏิบัติการ MacOS เพิ่มความมีมิติขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่บนระบบปฏิบัติการ ChromeOS ใช้สีที่สว่างพื้นสีเดียวหรือที่เรียกว่า Flat Colors


การออกแบบดีไซน์มีผลต่อการใช้งานผลิตภัณฑ์ไม่มากก็น้อย จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome มีผู้ใช้งานประมาณ 64.67% โดยมีเว็บเบราว์เซอร์ Safari ของบริษัท Apple ตามมาเป็นลำดับที่ 2 โดยมีผู้ใช้งานประมาณ 19.06% และ Edge , Firefox ตามมาเป็นลำดับรองลงไป เป็นที่น่าสังเกตว่าเบราว์เซอร์ Safari มีอัตราการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลานับจากปี 2015


ข้อมูลจาก theverge.com, google.com 

ภาพจาก twitter.com

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง