รีเซต

BJCวัคซีนดันครึ่งหลัง 7พันล้านตะลุยเปิดสาขา

BJCวัคซีนดันครึ่งหลัง 7พันล้านตะลุยเปิดสาขา
ทันหุ้น
8 มิถุนายน 2564 ( 09:00 )
150

 

ทันหุ้น - BJC มั่นใจครึ่งปีหลังโดดเด่น อานิสงส์วัคซีน-เปิดประเทศหนุนบิ๊กซี ชี้ไตรมาส 4 บูม บิ๊กซีออนไลน์ยังเปรี้ยง ขณะที่แพ็กเก็จจิ้ง-เฮลธ์แคร์สดใส กำไรขั้นต้นเพิ่ม เล็งทุ่มงบ 6-7 พันล้านบาท ขยายสาขาบิ๊กซีนับร้อยสาขา พร้อมปรับปรุงสาขาเดิม กรุยทางโกยเงินระยะยาว โบรกมองเป้า 44 บาท

 

นายรามี บีไรเนน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า บริษัทจะได้รับผลบวกจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ที่เริ่มดำเนินการฉีดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคกลับมาดีขึ้น และเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นจึงประเมินแนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 2564 น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2564

 

ยอดออนไลน์ทะยาน

ขณะเดียวกันในแง่แนวทางการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ให้กลับมาดียิ่งขึ้น ส่วนธุรกิจออนไลน์ของบิ๊กซี ซึ่งถือเป็นหนึ่งกลุ่มรายได้สำคัญของ BJC นั้นปัจจุบันตัวเลขรายได้อยู่ที่ราว 1% แต่ในแง่ตัวเลขโดยรวมนั้นถือว่ายังดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมายอดขายในช่องทางออนไลน์เติบโตสูงถึง 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลมาจากการปรับปรุงหน้าเว็บไซด์และขยายแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ ช็อปปี้, ลาซาด้า ซึ่งสะท้อนได้เห็นตัวเลขในเดือนเมษายน 2564 ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนต่อเนื่องด้วย

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ BJC แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ประมาณ 20%, ธุรกิจอาหาร 27%, ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร (Non-Foods)ประมาณ 31% และที่เหลือมาจากต่างประเทศ 22%

 

ควักงบอัพแกร่งเพิ่ม

ขณะที่แนวโน้มผลงานของธุรกิจอื่นๆ ในปี 2564 นั้นถือว่ายังน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 เนื่องจากคำสั่งซื้อ ในกลุ่มอาหาร, แพ็จเก็จจิ้ง ฯลฯ ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ผลมาจากธุรกิจมีการทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม

สำหรับงบลงทุนปี 2564 ทาง BJC วางไว้ประมาณ 6-7 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มากว่า 50% นั้นเป็นการรองรับการเปิดสาขาใหม่ในส่วนต่างๆ อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 2 สาขาในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้, มินิบิ๊กซีอีก 100 สาขา และที่เหลือเป็นการรองรับการปรับปรุงสาขาเดิมและธุรกิจในส่วนต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

 

กำไรแกร่งเป้า44บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น BJC ให้ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท แม้กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และบิ๊กซีจะยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด แต่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีคำสั่งซื้อของลูกค้ากลับเข้ามามากขึ้น และได้ผลบวกจากกระแส Sustainable packaging อีกทั้งกลุ่มสินค้าเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ยังเติบโตต่อเนื่อง

 

โดยในส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในไตรมาส 2/2564 คาดว่าจะเติบโตกว่าช่วงไตรมาส 1/2564 เนื่องจากยอดขายขวดแก้วเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเครื่องดื่ม (non-alcohol) และกลุ่มอาหาร มีการส่งออกได้มากขึ้นหลังจากโควิดในต่างประเทศคลี่คลายลง ขณะที่ยอดขายกระป๋องอลูมิเนียมจะฟื้นตัวเนื่องจากลูกค้าที่ส่งออกสินค้าไปเมียนมาร์กลับมาส่งสินค้าไปได้มากขึ้นกว่าไตรมาส 1/2564 ที่มีปัญหาด้าน Supply chain และระบบธนาคาร

 

อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่วนกลุ่มสินค้าเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์คาดว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดีจากการขายเครื่องเอ็กซ์เรย์ และมีการส่งมอบวัคซีน ไข้หวัดใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรในไตรมาส 2/2564 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564

 

ขณะที่ผู้บริหารยังคงตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้น 1-7% จากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจบรรจุภัณฑ์ได้ผลบวกจากกระแส Sustainable packaging และการเปลี่ยนจากการใช้กระป๋องเหล็กมาเป็นอลูมิเนียม อีกทั้งมีการผลิตกระป๋องขนาดใหม่ และการเติบโตของ Functional drink ส่วนเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.50% จากกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าใช้จ่ายยังควบคุมได้ดี อีกทั้งค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงหลังปรับโครงสร้างองค์กรเมื่อกลางปีก่อน

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง