รีเซต

โชเฟอร์สาว เมล์สาย 39 ถูกชายฉกรรจ์นับสิบ รุมทำร้ายถึงอู่ ขู่ หน้าใหม่จอดรถทับที่

โชเฟอร์สาว เมล์สาย 39 ถูกชายฉกรรจ์นับสิบ รุมทำร้ายถึงอู่ ขู่ หน้าใหม่จอดรถทับที่
มติชน
20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 08:50 )
61

 

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ นางสาวฐิตาภา ผึ้งทอง อายุ 35 ปี ชาวอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พนักงานขับรถเมย์สาย 39 บางขัน-อนุสาวรีย์ชัย สีชมพู อยู่ที่ อู่รถเมล์แห่งหนึ่งย่านรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หอบร่างกายหน้าตาบวมปูดบอบช้ำเลือดเต็มหน้าเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คน ทำร้ายร่างกายจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ

นางสาวฐิตา ภาผึ้งทอง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่เลิกงานช่วงเย็นก็ได้นั่งเล่นที่อู่ ในระหว่างนั้นได้มีน้องอีกคนนึงได้โทรมาหาตน บอกว่าไม่ให้จอดป้าย ห้ามจอดบริเวณแยกสถานีรถไฟฟ้า คปอ โดยการพูดจาว่า หน้าใหม่ไม่มีสิทธิ์มาจอดรถบริเวณนี้ พูดจาข่มขู่ หลังจากนั้นเขาก็ได้ขับรถกระบะมาที่ อู่รถเมล์ที่รังสิตที่ตัวเองนั่ง หลังจากที่เลิกงานก็ได้มีชายฉกรรจ์ร่วมนับ 10 กว่าคนได้ลงมาจากรถ ได้เข้ามาต่อว่า และรุมทำร้ายตน ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ

ผู้ที่มาทำร้ายตนนั้นฉายา แก๊งหงส์ซิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการข่มขู่ตนตลอด เรื่องการไม่ให้ตนขับรถเมล์สายนี้ ซึ่งในขณะเกิดเหตุเหมือนจะชักอาวุธปืน มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น เพราะครั้งหนึ่งก็เคยเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาแล้ว

เนื่องจากพูดว่าตนรู้จักเส้นสายใหญ่โต ในสถานีตำรวจประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งคนที่มาทำร้ายตนชื่อเล่น ไปป์ ปาน และหน่อย โดยมีหัวหน้าขับแท็กซี่ที่มารุมชกต่อยตน

สาเหตุที่เกิดเหตุ ก็เพราะเขาต้องการที่จะคุมและวิ่งรถเมล์ โดยการแย่งอาชีพของเรา โดยกลุ่มที่ก่อเหตุนั้น เป็นรถเมล์สายสีส้มสาย 39 เช่นกัน แต่สัมปทานหมดอายุไปแล้ว โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้เห็นเหตุการณ์ นางสาวขนิษฐา เสืออิ่ม อายุ 43 ปี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในขณะเกิดเหตุเห็นคนขับรถกระบะ โดยมีไม้พร้อมขวดเป็นอาวุธโดยการที่กวักมือเรียกให้ออกมา ตนได้เดินออกมาก็พูดว่า มีอะไรก็ค่อยๆพูดกัน แต่เขาก็ไม่ฟัง เข้ามาทำร้ายน้องที่มาแจ้งความหลังจากที่เกิดเหตุ ก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ พอตำรวจมาถึงคนชื่อไปป์ได้พูดกับตนว่า ตำรวจที่สถานีตำรวจจุฬาไม่กลัวเพราะตำรวจเขารู้หมดทุกนาย พูดจาใหญ่โต หลังจากที่ก่อเหตุก็ได้หลบหนีไป โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมได้

ด้านนายสัมฤทธิ์ ผึ้งทอง อายุ 41 ปี พี่ชาย ได้เปิดเผยว่า รถที่ตนขับคือรถสาย 39 สีชมพู สัมปทานถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนรถที่ก่อเหตุนั้น คือสายสีส้มแต่ไม่มีสัมปทาน พูดง่ายๆ ก็คือรถเถื่อน หลังจากนั้นเขาก็ยกพวกมาข่มขู่ และมาทำร้ายตนโดยที่จะบีบและทำให้เรารับคนไม่ได้ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาข่มขู่ตัวเองมาตลอด แต่ทางเราก็ได้แจ้งผู้ที่คุมสัมปทานก็ได้รับคำตอบว่าเขาก็จะอบรมให้ว่าไม่ให้มาข่มขู่ข่มเหงรังแกเรา

เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นิพล บุตรสง่ารองสารวัตรสอบสวนสถานีตํารวจประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง