IP ปิดดีลธุรกิจร้านขายยา ดันผลงานทะยานเท่าตัว
#IP #ทันหุ้น – IP จ่อปิดดีล “ดรัก แคร์” ผู้นำธุรกิจร้านขายยา วันที่ 1 เม.ย.นี้ พร้อมรับรู้รายได้ทันที แย้มแผนดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปักเป้าดันรายได้ปีนี้โตเท่าตัว 1.8 พันล้านบาท ลุยขายสินค้ากัญชง-กัญชากลางปีนี้ ฟากโบรกชี้กลับมาสร้างผลตอบแทนที่ดีอีกครั้ง คาดกำไรเติบโตสูง 80% เคาะเป้า 26 บาท
ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปิดดีลเข้าซื้อหุ้น 88.67% มูลค่าราว 311 ล้านบาท ของบริษัท ดรัก แคร์ จำกัด ผู้นำธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ “LAB PHARMACY” ปัจจุบันมีสาขากว่า 20 แห่ง ในวันที่ 1 เมษายน 2565 นี้ และเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันที
** เล็งดันเข้าตลาด
อีกทั้งบริษัทมีเเผนนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ซึ่งนับเป็นอีกย่างก้าวการขยายธุรกิจเข้าสู่การจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ (ยา) สำหรับคน และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ต่อจิ๊กซอว์การดำเนินธุรกิจให้มีความครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อผลักดันยอดขายและกำไรเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง
ขณะที่ปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,801 ล้านบาท จากปี 2564 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 920 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตก้าวกระโดดกว่า 106% ตามการเติบโตของยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกที่ยังคงมีกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ออกสินค้าใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งคนและสัตว์ ซึ่งในปี 2559 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตแต่ระดับ 5,054 ล้านบาท
** เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์
สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์กัญชง-กัญชา ที่บริษัท ได้ร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะนำออกสู่ตลาดได้ ร่วมกับบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ซึ่งคาดว่าจะพร้อมส่งมอบล็อตแรกให้กับบริษัทได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 นี้
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ระบุถึง บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ว่ากลับเข้าสู่ช่วงการเร่งเครื่องการเติบโต เเละคาดว่าหุ้น IP จะกลับมาสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดอีกครั้งตามแนวโน้ม ของกำไรปีนี้คาดเติบโตสูงราว 80% เทียบจากปีที่ผ่านมา จากทั้งธุรกิจหลักและ New S-curve และมี Upside ราว 15-20% จากการส่งมอบรายได้ตามแผนที่ 1,800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าคาด 1,530 พันล้านบาท
** เคาะเป้า 26 บาท
ทั้งจากธุรกิจหลัก และจาก Lab Pharmacy ที่เพิ่งซื้อเข้ามา มีแผนจะเข้าไปขยายสาขาจาก 22 สาขา เป็น 40 สาขาในปีนี้ พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จัด Product Mix ใหม่ สร้าง synergy กับ IP เเละแผนการเติบโตระยะยาวในระดับเฉลี่ย 40-50% ต่อปี ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ขณะที่ราคาหุ้นปรับลงมา 17% จากจุดสูงสุดล่าสุด (2 ก.พ. 2565 ) สวนทางงบการเงินไตรมาสที่ 4/2564 ที่กำไรทำจุดสูงสุดใหม่ และ Outlook ที่ดี
ทั้งนี้ มองว่าเป็นโอกาสช้อนซื้อ และคงราคาเป้าหมายที่ 26 บาท (อิง PEG 1 เท่า บน EPS ปี 2565 และกำไรเติบโต 41%/ปี CAGR ในปี 2565-2567)