BAYตั้งเป้าสินเชื่อรายใหญ่โต7% ครึ่งหลังยังเสี่ยงจับตาภาษีสหรัฐ

#BAY #ทันหุ้น - BAY ยังคงเป้าหมายการเติบโต 5-7% ในธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ โดยธุรกิจที่ยังมีโอกาสการเติบโต เช่น การแพทย์ การดูแลสุขภาพ, การท่องเที่ยว รวมถึงนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์, รถ EV, อาหาร, พลังงานหมุนเวียน ซึ่งยังคงต้องระวังความท้าทายจากภาษีสหรัฐฯ และปัญหาภายในประเทศ
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจปี 2568 ที่ 5-7% โดยในไตรมาส 1/2568 เติบโตได้ประมาณ 4.7% ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของสินเชื่อลูกค้าที่ขยายธุรกิจในต่างประเทศ, โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ลูกค้ากำลังลงทุน, การรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ, และลูกค้าอุตสาหกรรมที่มีความต้องการขยายพื้นที่
@ธุรกิจที่มีการเติบโต
ทั้งนี้ได้มองเห็นโอกาสการและการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตในประเทศไทย เช่น การแพทย์/การดูแลสุขภาพ (Medical/Healthcare) ซึ่งไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงการท่องเที่ยว โดยทั้งสองเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามามากขึ้น และกลับมาท่องเที่ยวและใช้บริการซ้ำ
ขณะที่ไทยมีความพยายามเป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะในบริบทของ China Plus One ซึ่งประเทศที่ถูกมองว่าเป็นทางเลือกในการย้ายฐานการผลิตหรือขยายการลงทุน ได้แก่ เวียดนาม, ไทย และมาเลเซีย โดยต้องพิจารณาเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น น้ำ, ไฟ, แรงงาน ที่มีเสถียรภาพรวมถึงพลังงานสะอาด
อีกทั้งความสนใจลงทุนจากต่างประเทศ ยังเพิ่มขึ้นจากฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และจีน ในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจ เช่น PCB (แผงวงจรพิมพ์), อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึง Data Center เป็นอีกเทรนด์ที่น่าสนใจและมีการลงทุนจาก Private Fund เข้ามามาก
ด้านภาคอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารแฟรนไชส์ ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังมีการควบรวมกิจการ (M&A) และกิจการร่วมค้า (JV) ส่วนพลังงานหมุนเวียนด็ยังมีความต้องการจากต่างชาติสูง ด้านภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังเผชิญความท้าทายอย่างมากทั้งแนวราบและแนวสูง กลยุทธ์คือการ ประคองตัวและช่วยเหลือลูกค้าในระยะสั้น
@ระวังความท้าทาย
ทั้งนี้ยังมีความท้าทายในปี 2568 โดยเฉพาะครึ่งปีหลังจากความไม่แน่นอนทางการค้า ผลกระทบจากการพิจารณาภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงระบบการค้าโลก และส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งถูกปรับลด GDP ต่างต่อเนื่อง สถานการณ์การเมืองภายในประเทศ มีที่ปัญหามาอย่างยาวนาน
ฝั่งตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น ที่มีปัญหาทั้งในด้านคุณภาพและธรรมาภิบาล ขณะที่ความเสี่ยงต่อนักลงทุนต่างชาติ คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือ ในบางอุตสาหกรรมที่ต่างชาติเข้ามาลงทุน
@กลยุทธ์การเติบโต
อย่างไรก็ดีแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจปี 2568 ตั้งอยู่บนแนวคิด “Crafting Collaboration, Moving Beyond Solutions” สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการคิดและทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ผ่านการดำเนินงานใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ Sustainable Finance and Capacity Building เสริมสร้างขีดความสามารถด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน, Quality Growth ผลักดันการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีคุณภาพ พร้อมสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง
Investment Banking Solution เสริมแกร่งโซลูชันการเงินเพื่อธุรกิจแบบครบวงจรผ่านความ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เครือข่ายธนาคารพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียนและบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) และ Leverage MUFG & Global Network ยกระดับการให้บริการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่ก้าวไกลยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ด้วยความร่วมมือกับทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป เครือข่ายของ MUFG และเครือข่ายระดับโลก