รีเซต

พณ.นำร่องภูเก็ต จูงใจใช้เอฟทีเอกู้วิกฤตโควิค เปิดตัวสินค้าประมงพรีเมี่ยม

พณ.นำร่องภูเก็ต จูงใจใช้เอฟทีเอกู้วิกฤตโควิค เปิดตัวสินค้าประมงพรีเมี่ยม
มติชน
31 ตุลาคม 2563 ( 11:41 )
52
พณ.นำร่องภูเก็ต จูงใจใช้เอฟทีเอกู้วิกฤตโควิค เปิดตัวสินค้าประมงพรีเมี่ยม

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำคณะกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต วันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้ เพื่อสำรวจศักยภาพการทำประมงในกระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ กุ้งมังกรเจ็ดสี ปลาช่อนทะเล (หรือ ปลาแซลมอลดำ) และหอยมุก โดยมุ่งเน้น การใช้กลยุทธ์นำสินค้าใหม่เจาะตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตคงที่ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่มากนัก

นางอรมน กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รายได้หลักอย่างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูเก็ตได้รับผลกระทบอย่างมาก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงได้ร่วมมือกับภาครัฐ เกษตรกร และภาคเอกชน เร่งใช้กลยุทธ์สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ผลักดันสินค้าประมงให้มีจุดแข็งมากขึ้น อาทิ กุ้งมังกรเจ็ดสี ปลาช่อนทะเล (หรือปลาแซลมอลดำ) และหอยมุก ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะได้ร่วมหารือกับเกษตรกรและผู้ประกอบการ ณ อินทรฟาร์ม จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการตลาดสินค้าประมงสู่ตลาดพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแนะช่องทางการใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อขยายการส่งออกเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศคู่เจรจา FTA ของไทย 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าประมงและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลทุกรายการให้ไทยแล้ว เหลือเพียง 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าประมงและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลบางรายการจากไทย

สำหรับช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกสินค้าประมง มูลค่า 1,152 ล้านเหรียญสหรัฐ มีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา อาเซียน และเกาหลีใต้ และส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเล มูลค่า 2,934.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และอาเซียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง