รีเซต

สหรัฐฯ จับสองสามีภรรยาขโมย "บิทคอยน์" (Bitcoin) ครั้งใหญ่ที่สุด!

สหรัฐฯ จับสองสามีภรรยาขโมย "บิทคอยน์" (Bitcoin) ครั้งใหญ่ที่สุด!
TNN ช่อง16
9 กุมภาพันธ์ 2565 ( 17:59 )
123

วันนี้ (9 ก.พ.65) สื่อต่างประเทศรายงานว่า อิลยา ลิกเตนสไตน์ วัย 34 ปี ซึ่งถือสัญชาติทั้งรัสเซียและอเมริกัน และฮีทเตอร์ มอร์แกน ภรรยาวัย 31 ปี ถูกจับกุมในย่านแมนฮัตตันของนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร 

จากข้อหาใช้วิธีการที่สลับซับซ้อนในการถ่ายโอนเงินคริปโตเคอเรนซีที่ขโมยมาโดยผิดกฏหมาย ฟอกเงินและปิดบังซ่อนเร้นธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงสหรัฐฯ ทั้งคู่ถูกอัยการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ดีซี แล้ว 


ภาพจาก Reuters



ลิซ่า โมนาโค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า การจับกุมครั้งนี้เชื่อมโยงไปถึงการล้วงข้อมูลทางการเงินของบริษัท "บิทฟิเน็ก" (Bitfinex) ซึ่งเป็นกระดานซื้อขายคริปโตเคอเรนซีรายใหญ่เมื่อปี 2016 

หลังทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่า คบคิดกันฟอกบิทคอยน์ที่ถูกขโมยมา 119,754 หน่วย ซึ่งในขณะนั้นมีมูลค่าประมาณ 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2,350 ล้านบาท) แต่มูลค่าในวันนี้สูงกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 148,500 ล้านบาท) 

ด้วยการนำไปซื้อของผิดกฎหมาย มีตั้งแต่ทองคำ, NFT หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนได้ ไปจนถึงบัตรกำนัลของห้างสรรพสินค้า โดยในการสอบสวนครั้งนี้สามารถยึดเงินคริปโตฯ ที่ถูกขโมยไปเป็นมูลค่ากว่า 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 118,000 ล้านบาท) ถือเป็นการยึดเงินคริปโตเคอเรนซีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ

บริษัทผู้ให้บริการวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีคาดว่า การคลี่คลายคดีนี้อาจขยายผลมาจากการทลายตลาดดิจิทัลผิดกฎหมายแห่งหนึ่งในปี 2017 ตลาดนี้ฟอกบิทคอยน์ถูกขโมยบางส่วนด้วยการนำไปประมูลของใน "อัลฟาเบย์" (AlphaBay) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ประมูลผิดกฎหมาย

ภาพจาก Reuters


เจ้าหน้าที่แกะรอยธุรกรรมในเว็บจนพบบัญชีของลิกเตนสไตน์ นำมาซึ่งการจับกุมเขาและภรรยาในที่สุด มีรายงานด้วยว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ทำตัวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เพราะตัวมอร์แกนเป็นนักร้องสไตล์แร็ป ซึ่งเนื้อหาของเพลงมักเกี่ยวกับการลงทุนและขายสินค้า เป็นนักหาเงินและชอบเสี่ยง

ปัจจุบันมีการใช้สกุลเงินบิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็นหนึ่งในเงินคริปโตเคอเรนซีที่ได้รับความนิยมที่สุดนับล้านๆ ดอลลาร์ในแต่ละวัน ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้ ATM หรือนำไปซื้อทองคำ, NFT หรือมอบให้ในรูปแบบของบัตรกำนัลสำหรับจับจ่ายใช้สอยส่วนบุคคล ท่ามกลางการจับตามองจากหน่วยงานด้านกฏหมายของรัฐบาลว่าอาจเป็นช่องทางในการฟอกเงิน เรียกค่าไถ่ และก่ออาชญากรรมได้.


ภาพจาก แฟ้มภาพ Bitcoin โดย AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง