คืนวันลอยกระทง 2566 ต้องระวังอะไรบ้าง? เช็กเลย!
ข่าววันนี้ ลอยกระทง 2566 ปีนี้ ถือกระทงลอยกับใครไม่สำคัญ แต่สิ่งที่ต้องระวัง! ที่คุณอาจมองข้ามไป อาจส่งผลเสียต่อตัวเองและทรัพย์สินได้
คืนวันลอยกระทง 2566 ต้องระวังอะไรบ้าง? เช็กเลย!
วันนี้ TrueID มีข้อมูลดี ๆ ชวนเพื่อน ๆ ชาวทรูไอดีมาเพิ่มความปลอดภัยในคืนเทศกาลลอยกระทงที่ใกล้จะถึงนี้ จะมีเรื่องอะไรที่ต้องระวังบ้าง มาดูกันเลย
ลอยกระทง 2566 วันไหน?
สำหรับเทศกาลลอยกระทง 2566 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 มีหลายจังหวัดจัดงานแสงสีเสียง ซึ่งการจัดงานต้องเป็นไปตามมาตรการการป้องกันโควิดเข้มงวด หลังจากภาครัฐได้ประกาศว่า สามารถจัดงานได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ ศคบ. กำหนด
เรื่องที่ต้องระวังในคืนวันลอยกระทง
ส่วนเรื่องที่ทุกคนต้องระวังในการเที่ยวงานลอยกระทงนั้น มีด้วยกัน 3 เรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด ได้แก่ ระวังลูกหลานตกน้ำ จมน้ำ ระวังเสียงพลุ ประทัด (ทั้งที่งด) ทำสุนัข แมวตกใจ น้องหมา น้องแมวหาย ไฟไหม้บ้านเรือน ซึ่งล้วนสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองแล้ว ยังสร้างผลกระทบต่อสังคมด้วย
1. ระวังลูกหลานตกน้ำ เด็กจมน้ำ เด็กพลัดหลง
รู้หรือไม่ว่า คืนวันลอยกรงที่จัดในแต่ละพื้นที่มักมีการลอยกระทงตามแหล่งน้ำ เพื่อขอขมาแม่คงคา อาจมีความเสี่ยงที่จะพลัดตก ลื่นจมน้ำทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่พบได้บ่อย ๆ เนื่องจากภาพที่เราคุ้นเคยคือ จะเห็นเด็กลงไปเก็บเศษเงินในกระทง โดยข้อมูลจากกองป้องกันการบาดเจ็บกรมควบคุมโรค ระบุว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ พ.ศ.2553-2562 พบว่า วันลอยกระทงมีคนจมน้ำเสียชีวิตถึง 121 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 33 ราย ซึ่งมากกว่าในช่วงวันปกติ 2 เท่าโดยพบมากสุดในกลุ่มอายุ 5-9 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี และพบในเด็กชายมากกว่าหญิงเกือบ 2 เท่า รวมทั้ง เด็กเกิดการพลัดหลงจากพ่อแม่
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กจมน้ำ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องดูแลบุตรหลาน เด็กเล็กอย่างใกล้ชิด ด้วยหลัก 3 อย่า คือ
1. อย่ายืนใกล้ขอบบ่อ
2. อย่าลงน้ำไปเก็บกระทงหรือเงินในกระทง
3. อย่าก้มลงไปลอยกระทงโดยเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ต้องอยู่ในระยะที่เอื้อมถึงตัวเด็ก ส่วนเด็กอายุ 3-5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นและเข้าถึงตัวได้โดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เด็กไปลอยกระทงกันเองตามลำพัง ไม่ควรให้เด็กลงเก็บกระทงหรือเก็บเงินในกระทงเด็ดขาด เพราะเด็กอาจเสี่ยงจมน้ำและเสียชีวิตได้
นอกจากต้องระวังเด็กจมน้ำในคืนวันลอยกระทงแล้ว กลุ่มผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราและลงน้ำ หากมีการโดยสารเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
2. เสียงพลุ ประทัด ทำตกใจ สุนัข แมวหาย ได้
อีกหนึ่งปัญหาที่มักพบบ่อย ๆ ในช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลลอยกระทง เทศกาลขึ้นปีใหม่ ที่มีการเฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุ จุดประทัด ทั้ง ๆ ที่มีการรณรงค์ให้งดจัด เนื่องจากผลกระทบที่ส่งผลร้ายแรงไม่เพียงเกิดอันตรายได้ แต่ยังทำให้น้องหมา น้องแมวตกใจจนสูญหาย
ดังนั้น ทุกเทศกาลขอร้องให้เจ้าของสุนัข แมว หรือเจ้าของสัตว์เลี้ยง ใส่ใจในความปลอดภัย ด้วยการพาสุนัขและแมว สัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ที่ไม่ทำให้เสียงพลุ หรือประทัดทำให้ตกใจ จนวิ่งหนีตายโดนรถชน หรือสูญหาย พลัดหลงจากเจ้าของ จากที่เคยมีบ้าน เป็นสัตว์เลี้ยง ต้องมาเป็นหมาจร แมวจร ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของสัตว์และต่อสังคมอีกด้วย โดยวิธีป้องกันง่าย ๆ
- ช่วยปิดประตูบ้าน ประตูรั้วบ้านให้มิดชิด
- พาสุนัข แมว ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
- ห้ามนำสุนัข แมวไปเที่ยวตามเทศกาล เพราะเกิดการพลัดหลงได้ง่าย
- แต่หากต้องไปควรใส่สายจูงให้เรียบร้อย พร้อมชื่อเบอร์ติดต่อ ใส่ตระกร้า กระเป่า ถือไว้ข้างตัวเสมอ ไม่ควรอุ้มสุนัข หรือแมว เสี่ยงหลุดหายง่าย
- งดเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตราย
3. ปล่อยโคมลอย ทำไฟไหม้
ปิดท้าย ห้ามปล่อยโคมลอยในวันลอยกระทง เพราะอาจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุญเสียทั้งชีวิตและทรัพสินย์ของผู้อื่น พื้นที่ต่าง ๆ ได้ ทั้งเกิดเพลิงไหม้ที่ทำลายทุกอย่างในพริบตา ภาพการหนีตายจากไฟไหม้ที่ทุกคนเคยเห็นข่าวบ่อย ๆ ดังนั้น งดปล่อยโคมลอย ที่อาจจะส่งผลทำให้เกิดเพลิงไหม้ และการจุดและปล่อย บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใด ขึ้นไปสู่อากาศ โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 33 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562
และนี่คือ 3 ข้อห้ามที่ต้องระวังในลอยกระทง หรือเทศกาลอื่น ๆ เมื่อรู้แล้วก็ควรนำไปปฏิบัติจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อน และไม่เกิดความสูญเสีย ส่วนใครที่ไม่ได้เดินทางเที่ยวงานลอยกระทง เพื่อขอขมาแม่น้ำคงคา ไม่ต้องเสียใจ เพราะยุคนี้แค่มีสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็สามารถลอยกระทงออนไลน์ได้แล้ว แถมลดเสี่ยงโควิดด้วยนะ
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก