รีเซต

อยากลงทุนกับรถ "เฟอร์รารี่" ต้องรูปแบบไหนถึงจะคุ้ม

อยากลงทุนกับรถ "เฟอร์รารี่" ต้องรูปแบบไหนถึงจะคุ้ม
TNN Wealth
25 พฤศจิกายน 2564 ( 16:14 )
309
อยากลงทุนกับรถ "เฟอร์รารี่" ต้องรูปแบบไหนถึงจะคุ้ม

รถซุปเปอร์คาร์ กลายเป็นการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ แต่จากการถอดบทสัมภาษณ์ "นันทมาลี ภิรมย์ภักดี" กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายซูเปอร์คาร์ เฟอร์รารี่ ในรายการ Meet The Top ทาง TNN16 แล้ว รถสปอร์ตกลายเป็นการลงทุนอีกประเภทหนึ่ง ที่คนมีเงินเย็น สามารถเลือกมาเป็นตัวสร้างกำไรได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ทั้งนี้แม้การลงทุนการกลุ่มรถซุปเปอร์คาร์จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เเต่การจะเลือกลงทุนในกลุ่มรถเหล่านี้ ก็ควรเลือกรุ่นที่มีการผลิตออกมาจำนวนน้อย อย่าง Limited Editions และรถที่เป็นรถคลาสสิค ที่เป็นการผลิตออกมาเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสต่าง ๆ ของบริษัทรถยนต์นั้น ๆ โดยซื้อที่เป็นรถมือ 2 สภาพดี เลือกจากบริษัทที่ไว้ใจได้

 

โดยรถเหล่านี้เมื่อผลิตครบตามจำนวนที่ตั้งไว้เเล้วก็จะเลิกผลิต เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 10 ปี รถกลุ่มนี้ก็จะจัดว่าเป็นรถที่หายาก คนที่อยากได้รถรุ่นนี้ก็จะมีความพยายามขวนขวายหา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่นักสะสมในประเทศเท่านั้น นักสะสมในต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินเช่นกัน เช่นเดียวกับราคาของรถก็จะขึ้นเองโดยเป็นไปตามกฎ Supply และ demand ที่เมื่อมีความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีสินค้า ราคาสินค้าก็จะขึ้น

 

แต่ถ้าเราคิดจะลงทุนเกี่ยวกับรถยนต์ประเภทนี้แล้วเงินที่เราเอาไปซื้อรถนั้นต้องเป็นเงินที่เรายังไม่จำเป็นต้องใช้ในช่วงเวลาอันใกล็ และอาจจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปี โดยจะยังและต้องดูแลรักษาสภาพรถให้เหมือนใหม่ ถ้ามีชิ้นส่วนใดเสียหาย อะไหล่รถที่เราเอามาเปลี่ยนต้องเป็นของเเท้เท่านั้น ให้เหมือนใหม่ในสภาพที่ออกมาวันเเรก

 

นันทมาลี กล่าวว่า การทำธุรกิจซื้อขายรถสปอร์ตมา 10 ปี ทำให้รู้ว่าการซื้อรถเฟอรารี่มีค่าเสื่อมน้อยมาก เพราะรถเฟอรารี่แต่ละรุ่นจะมีเรื่องราวของตัวเอง พอหมดผลิตก็หมด ไม่มีการเฟซลิฟต์ เราก็จะดูสภาพรถ ระยะทางที่วิ่งมาแล้ว และเช็ครถทุกคันรวม 198 รายการ ถ้าผ่านเรามาตรฐานก็จะแถมวารันตีให้ด้วย เราดูแลทุกช่วงอายุ จนหมดอายุรถ อย่างเช่นรถบางรุ่นอย่าง 355 ที่ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีคนเก็บสะสม

 

"มีเงินสิบล้านต้น ๆ ก็จะได้ครอบครองเฟอร์รารี่อย่างรุ่น "แคลิฟอร์เนีย" แล้ว ทางเราจะแถมการบำรุงรักษาและวารันตีได้ และสามารถต่อไปจนถึงปีที่ 15 เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้ฟรี 7 ปี ซึ่งการใช้งานประจำวันแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ รถที่หมดวารันตีไปแล้ว มีเคลม หรือมีเปลี่ยน เราก็จะสามารถแจ้งไปให้ลูกค้าเข้ามาเปลี่ยน แม้จะมีความเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เราก็ดูแลได้ทุกรุ่นทุกยุคสมัย"

 

เราเคยดูแลรถในอดีตด้วย และได้ไปร่วมงานครบรอบ 70 เฟอรารี่ ก็มีคนทั่วโลกเข้ามาประมูล รถในอดีต อย่างเช่นเฟอร์รารี่ดีโน่ เป็นรถที่เอ็นโซ่เฟอร์รารี่ทำให้ลูกเขา ก่อนที่จะมาเป็นเครื่องวางกลางที่ 308 ในปี 1972 รถรุ่นนี้ถ้าไปเมืองนอกจะอยู่ในมิวเซียมของเฟอร์รารี่ มูลค่าน่าจะสูงมากแล้วในตอนนี้ และมีน้อยคันมากในเมืองไทย เราก็เคยมีการบูรณะที่ศูนย์เรา ไม่ได้ดูแลแค่รถรุ่นปัจจุบัน

 

นอกจากนี้ที่ผ่านมาทาง คาวาลลิโน บูรณะเฟอร์รารี่มาแล้วมาหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรถในตำนานอย่าง 308 หรือ 348 ซึ่งถ้าเก่าขนาดนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการจัดอะไหล่ แต่ทางเราก็ทำเป็นคลาสสิคโปรแกรม ทุกอย่างอยู่ในออริจินัล ที่อะไหล่เป็นของเดิม เป็นสภาพเดิม ซึ่งจะได้การรับประกันจากโรงงานของเฟอร์รารี่ว่ามีสมบูรณ์แบบ มีพิธีส่งมอบเหมือนรถใหม่ มีสมุดเล่มรถมาให้จากโรงงาน

 

"อย่างเฟอร์รารี่รูซโซ่ซุปเปอร์คาร์ที่นั่งได้ 4 คน และสามารถใส่ถุงกอลฟ์ได้ 2 ถุง จะมีเรื่องราวของเขาเป็นคันสุดท้าย ไม่ผลิตอีกแล้ว หรือเฟอร์รารี่ 812 ซุปเปอร์ฟาส ไมล์วิ่งไปน้อยมาก และเลิกผลิตไปแล้ว น่าสะสมมาก คันสุดท้ายปี 2018 ราคา 4 ปี ลงไปแค่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่าราคาตกลงน้อยมาก แต่เมื่อกลายเป็นรถสะสมรถหายาก ราคาก็จะเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน

 

ดังนั้นรถที่มีสภาพย้อนอดีตที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะกี่สิบปีก็ขับได้ มีเสน่ห์และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ รวมไปถึงรถเหล่านี้ถ้าดูแลดี ๆ ก็จะมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งรถเฟอร์รารี่เมื่อซื้อมาแล้วราคาจะตกลงน้อยมาก ไม่ถึง 30% แล้วแต่การดูแล ต่างจากแบรนด์อื่นที่ขับออกมาแค่ 1 ปี ก็ราคาหายไปแล้ว 40% เรียกได้ว่าขับเฟอร์รารี่แล้วเงินไม่หาย หรือหายไปก็คุ้ม ก็ถ้าขับไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นกำไรของการใช้งาน ขับไปเรื่อย ๆ ก็คุ้ม เพราะเมื่อหารค่าเสื่อมลงไปก็จะเป็นกำไรในการใช้งาน

 

"ค่าบำรุงรักษา รถใหม่มีค่าวารันตี 3 ปี ปีที่ 4-5 ราคาค่าต่อวารันตีตัวเต็มก็จะประมาณ 2 แสนกว่าบาท แต่ก็นับว่าคุ้มเมื่อเทียบกับต้องเปลี่ยนอะไหล่ชุดใหญ่ 1 ชุด เช่นถ้าเกิดมีปัญหากับเกียร์ที่ประมาณ 4 แสนบาท และเครื่องยนต์เป็น 1 ล้านบาท การต่อประกันก็จะครอบคลุมทุกอย่าง แต่ถ้าหลังจากปีที่ 5 ไปแล้วก็จะราคาแสนปลาย ๆ ที่จะต่อได้ถึง 15 ปี"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง