คนแรกของประวัติศาสตร์สหรัฐฯ "ทรัมป์" ถูกถอดถอน 2 ครั้ง
วันนี้ ( 14 ม.ค. 64 )ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกยื่นถอดถอนถึง 2 ครั้งด้วยกัน หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่มีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ผ่านมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตามคาด สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ติดตามรายละเอียดจาก Vroom
หลังจากนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยื่นหนังสือถึงนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าจะไม่ใช้อำนาจพิเศษ ตามบทแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งและขึ้นรักษาการณ์แทนอย่างแน่นอน โดยให้เหตุผลว่าวิธีนี้ไม่ส่งผลดีต่อประเทศชาติและไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ทางด้านสภาผู้แทนราษฎร์ ที่นำโดยพรรคเดโมแครตจึงเดินหน้าลงมติถอดถอน หรือ impeachment ประธานาธิบดีทรัมป์ด้วยข้อกล่าวหาว่า ปลุกปั่นจนทำให้เกิดการก่อจลาจล ผลการลงมติออกมาแล้ว ด้วยคะแนน 232 ต่อ 197 เสียง ครั้งนี้มีส.ส.จากพรรครีพับลิกันร่วมลงมติถอดถอนด้วย 10 คน หลังจากนี้จะมีขั้นตอนอย่างไร มีโอกาสสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และหากถอดถอนได้สำเร็จจะส่งผลต่อทรัมป์อย่างไร ไปติดตามพร้อมๆ กัน
ปฏิกิริยาแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากรู้ผลการลงมติถอดถอนเขาเป็นครั้งที่ 2 ทรัมป์ ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ไม่เอ่ยถึงการถูกถอดถอนแม้แต่คำเดียว ไปฟังเสียงของทรัมป์บางช่วงบางตอน
โดยทรัมป์กล่าวประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้เขาถูกลงมติถอดถอนในครั้งนี้ บอกว่า ผู้สนับสนุนที่แท้จริงของเขา จะไม่ดูหมิ่นกฎหมาย คุกคาม หรือล่วงละเมิดชาวอเมริกัน หากทำสิ่งเหล่านี้แสดงว่าไม่ใช่ผู้สนับสนุนของเขา บอกว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ฝั่งเดโมแครต หรือรีพับลิกันก็ไม่มีเหตุผลที่จะใช้ความรุนแรง และเขารู้สึกช็อกและเสียใจต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอให้ผู้สนับสนุนของเขาหาทางลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในประเทศ และบอกว่าเขาไดสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางใช้ทรัพยากรที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ในกรุงวอชิงตันดีซีแล้ว
คลิปวิดีโอนี้ ต้องโพสต์ลงในบัญชีทางการทวิตเตอร์ของทำเนียบขาว เพราะว่าบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์ของทรัมป์ถูกปิดไปอย่างถาวรแล้ว
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ บอกว่า ความพยายามถอดถอนเขาเป็น “การล่าแม่มดอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง” โดยอ้างถึงกระบวนการสืบสวนที่พุ่งเป้ามายังเขาก่อนหน้านี้ ทั้งการกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้ง เมื่อปี 2016 และความพยายามถอดถอนเขาเมื่อปี 2019 ด้วยข้อกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ กดดันให้รัฐบาลยูเครนขุดคุ้ยข้อมูล ของนายโจ ไบเดนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติประกาศให้ทรัมป์พ้นผิด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline