รีเซต

จับตาโอมิครอนพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ดื้อภูมิที่สุดเท่าที่เคยมีมา

จับตาโอมิครอนพันธุ์ย่อย  XBB.1.5 ดื้อภูมิที่สุดเท่าที่เคยมีมา
TNN ช่อง16
25 ธันวาคม 2565 ( 09:33 )
66
จับตาโอมิครอนพันธุ์ย่อย  XBB.1.5 ดื้อภูมิที่สุดเท่าที่เคยมีมา

วันนี้ ( 25 ธ.ค. 65  )ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ผ่านทางเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โดยระบุว่า   ...สายพันธุ์ย่อยที่ต้องจับตามองในนิวยอร์ก เป็นที่ทราบดีว่า Omicron นั้นเป็นสายพันธุ์ที่ครองการระบาดทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา โดยขณะนี้ BQ.1.x (BQ.1 และ BQ.1.1) นั้นมีสัดส่วนการตรวจพบมากที่สุดถึง 81% แต่ที่ตอนนี้หลายคนมองกันตาไม่กะพริบเลยคือ สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ซึ่งเป็นลูกหลานของ XBB ที่กลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอีกหลายตำแหน่ง โดยหนึ่งในตำแหน่งที่กลายพันธุ์เพิ่มนั้นคือ F486P ซึ่งได้รับการประเมินโดย Bloom Lab และ Ryan Hisner ว่าทำให้ไวรัสมีสมรรถนะดื้อต่อภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นไปอีก รวมถึงมีสมรรถนะในการจับกับตัวรับ ACE2 ที่ผิวเซลล์ได้แน่นมากขึ้น ทั้งที่จากเดิมแล้ว XBB คือตัวที่ได้รับการประเมินจากการวิจัยที่ต่างๆ แล้วว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ปัญหาที่สังเกตเห็นกันคือ XBB.1.5 นี้แพร่ระบาดมากที่นิวยอร์ก และขยายไปมากขึ้นเรื่อยๆ มีการประเมินสมรรถนะการขยายตัวของการระบาดจาก XBB.1.5 พบว่าสูงกว่า BQ.1.1 ถึง 144%

...หากประเมินดู จะพบว่าสัญญาณเช่นนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะสะท้อนให้เราเห็นว่าระลอกปัจจุบันของหลายประเทศทั่วโลกเป็นแบบซุปสายพันธุ์ (Variant soup) ที่มีสายพันธุ์ย่อยหลากหลายกระจายกันไป ยิ่งเป็นช่วงหน้าหนาว หน้าเทศกาล มีการเดินทางพบปะและท่องเที่ยวกันมาก ย่อมมีโอกาสที่จะกลายเป็นระลอกที่ยาวกว่าระลอกก่อนๆ ที่มักมีเพียงสายพันธุ์เดียวที่ครองการระบาด

ขณะนี้มีทั้ง BQ.1.1 ในยุโรปและอเมริกา XBB ในเอเชีย XBB.1.5 ในอเมริกา BF.7 ในจีนและอินเดีย รวมถึง BA.2.75.x ที่กระจายไปหลายหลายรวมถึงไทย

เดิมพันที่กำหนดธรรมชาติการระบาดของแต่ละประเทศคือ อัตราการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบและทันต่อสถานการณ์ระบาดในประเทศ และพฤติกรรมการป้องกันตัวของประชากรในแต่ละประเทศ

จะตัดสั้น หรือจะลากยาว ขึ้นอยู่กับสองเรื่องนี้ เพราะไม่สามารถพึ่งพาระดับนโยบายได้มากนัก เนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่แข่งขันกันระหว่างประเทศจนยากที่จะกลับกระแสหลักได้ 

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการป่วย การตาย และภาวะ Long COVID นั้นจะมากน้อยเพียงใด ย่อมมีผลจากสองปัจจัยข้างต้น ควบคู่ไปกับมาตรฐานการดูแลรักษา หยูกยาและวัคซีนที่ใช้มาในประเทศนั้น ว่ามีคุณภาพ และมีความเพียงพอ เข้าถึงได้หรือไม่

...ดังนั้น จึงเรียนเน้นย้ำว่า การระบาดในไทยเรายังมีการติดเชื้อกันมากในแต่ละวัน ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้บริการที่กินที่ดื่มที่เที่ยวที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี หรือพนักงานบริการไม่ป้องกันอย่างดีพอ ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด

สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ปิดปากปิดจมูกให้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก สุขสันต์วันคริสตมาส และขอให้ดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้ปลอดภัยไปด้วยกันครับ


ข้อมูลจาก : Thira Woratanarat

ภาพจาก  : AFP 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง