รีเซต

ป.ป.ช.จ่อ สรรหา "เลขาธิการ" คนใหม่ เปิดคุณสมบัติ พบ ตำรวจ ระดับ ผู้บัญชาการ สมัครได้

ป.ป.ช.จ่อ สรรหา "เลขาธิการ" คนใหม่ เปิดคุณสมบัติ พบ ตำรวจ ระดับ ผู้บัญชาการ สมัครได้
มติชน
14 พฤษภาคม 2564 ( 12:11 )
119

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง คุณสมบัติและวิธีการได้มาซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพ.ศ. 2564 ลงนามโดยพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

 

ประกาศดังกล่าวอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 148 และมาตรา 149 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพ.ศ. 2561 ประกอบข้อ 25 ในระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงานป.ป.ช. พ.ศ. 2561

 

 

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงได้ประกาศและมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เพื่อให้มีคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

 

เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงานป.ป.ช. คือ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

 

 

ดำรงตำแหน่งที่เคยดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งดังนี้ อธิบดีหรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งเทียบเท่าอธิบดีตามกฏหมายว่าด้วย ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี , ข้าราชการสำนักงานป.ป.ช. ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. หรือตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี , ข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รวมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี , ข้าราชการอัยการตามกฏหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอัยการจังหวัด รวมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี , ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้บัญชาการและเป็นหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานระดับกองบัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี , ข้าราชการทหารซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมพระธรรมนูญมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี

 

 

ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการไต่สวน และวินิจฉัยคดี หรือกฎหมาย หรือการตรวจสอบบัญชีและทรัพย์สิน หรือการป้องกันการทุจริต หรือการบริหารราชการแผ่นดิน หรือการอื่นใดอันเป็นประโยชน์แก่การปฎิบัติงานของสำนักงานป.ป.ช. อย่างหนึ่งอย่างใดมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี

 

 

ต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารป.ป.ช. ระดับสูงของสำนักงานป.ป.ช. หรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่าตามที่กปปช. กำหนด , ผ่านการประเมินสมรรถนะ หลักทางการบริหารของสำนักงานก.พ. หรือที่สำนักงานป.ป.ช. กำหนด

 

 

สำหรับคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ให้คณะกรรมการป.ป.ช. แต่งตั้ง และกรณีที่เลขาธิการจะพ้นจากตำแหน่ง หรือพ้นจากราชการตามกฏหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ให้เริ่มดำเนินการสรรหาเลขาธิการใหม่ภายใน 120 วันก่อนวันที่เลขาธิการจะพ้นจากตำแหน่ง และให้กรรมการสรรหาออกประกาศรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน กรรมการสรรหาจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ความประพฤติ ประวัติการรับราชการ และให้มีการสัมภาษณ์ การแสดงวิสัยทัศน์

 

 

ให้กรรมการสรรหาเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาจำนวนไม่เกิน 3 ราย พร้อมระบุเหตุผลความเหมาะสมต่อประธานกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้พิจารณาเลือกผู้ที่เหมาะสมได้รับการแต่งตั้ง 1 ราย และเสนอคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง