ตร.ระนองใช้กฎอัยการศึกรวบ 'มือปืน' รัวยิงเข้าโรงเรียน หลักฐานมัดแน่น เล็งถอนใบอนุญาต

ตร.ระนองใช้กฎอัยการศึกรวบ ‘มือปืน’ รัวยิงเข้าโรงเรียน หลักฐานมัดแน่น เล็งถอนใบอนุญาต เผยอยู่ระหว่างพิจารณาตั้งข้อกล่าวหา

จากกรณีมีผู้ก่อเหตุยิงปืนจากชั้น 3 ของบ้านพักเข้าไปในโรงเรียนหมิงซิน ริมถนนเรืองราษฎร์ อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองระนอง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (27 พฤศจิกายน) กระทั่งช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดราชเดช สนธิกำลังกับทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และตรวจค้นหาหลักฐานรวมถึงรวบรวมพยานต่างๆ ไปดำเนินการแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์และบรรยากาศหน้าโรงเรียนหมิงซิน พบเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองคอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยทั้งด้านหน้าและด้านในโรงเรียน โดยรงเรียนยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ

จนกระทั่งเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจครูและนักเรียน โดยมีนายชลัท ทิพย์ลมัย ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะกรรมการ และครูให้การต้อนรับ

พล.ต.ต.เชิดพงษ์กล่าวว่า จากการรับทราบข้อมูลเมื่อวานนี้ว่าผู้ก่อเหตุใช้ปืนอัดลมในการก่อเหตุ ทำให้เชื่อว่าหากผู้ก่อเหตุมีปืนลักษณะนี้ในการก่อเหตุก็น่าจะมีอาวุธปืนชนิดอื่นอยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะจากการตรวจค้นยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนเต็ม 2 แม็ก และปืนยาว .22 อีก 1 กระบอก โดยเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง

พล.ต.ต.เชิดพงษ์กล่าวว่า หากผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเหล่านี้ความเสียหายจะเกิดขึ้นหนักมาก ตนยึดหลักการว่า หากคุณทำผิดกฎหมาย คุณไม่เคารพกฎหมาย เราก็ไม่เคารพคุณ เมื่อวานนี้จึงตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดโดยใช้กฎอัยการศึก นำโดยทหาร และใช้กำลังชุดราชเดชที่ฝึกมาเพื่อการนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่ ตอนนี้ยึดปืนเหล่านั้นไว้แล้ว หลังจากนี้จะส่งเรื่องเพิกถอนทะเบียนและใบอนุญาตต่อนายทะเบียนต่อไป

พล.ต.ต.เชิดพงษ์กล่าวต่อว่า ผู้ก่อเหตุจะใช้สิทธิทางกฎหมายในช่องทางต่างๆ ในการร้องเรียนเรื่องเดือดร้อนรำคาญได้อยู่แล้ว แต่จะลงมือกระทำแบบนี้ไม่ได้ ตนให้ความสำคัญกับเรื่องเด็ก สตรี และคนชรา ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีทางสู้เป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ใน จ.ระนอง ต้องไม่มีเหตุกราดยิง

“ในส่วนของพยานหลักฐานตอนนี้มีเยอะและค่อนข้างแน่นหนา ส่วนการตั้งข้อหาในทางคดียังพิจารณากันอยู่เพราะมองว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องหลายครั้ง อันอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตได้ ซึ่งต้องมากกว่าทำร้ายร่างกายแน่นอน ข้อดีของ จ.ระนอง คือหากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคงเราสามารถใช้กฎอัยการศึกเข้ามาครอบ หรือนำทางก่อนได้ ซึ่งตอนนี้สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ 7 วัน” ผู้การระนองระบุ

ด้านนายชลัทกล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ และหน่วยงานความปลอดภัยที่ได้เข้ามาช่วยดูแลทำให้โรงเรียนและผู้ปกครองรู้สึกมั่นในใจความปลอดภัย ในนามผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้ออกแถลงการณ์สื่อสารให้กับผู้ปกครองทุกห้องได้รับทราบ รวมถึงให้เห็นภาพของหน่วยงานต่างๆ ที่ลงมาดูแลและช่วยเหลือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียนทุกคน โดยในวันนี้มีนักเรียนมาโรงเรียนราว 70 เปอร์เซ็นต์

สำหรับ โรงเรียนหมิงซิน เปิดมาแล้ว 103 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองระนอง ใกล้กับตลาดสดเทศบาลเมืองระนอง มีนักเรียนเกือบ 1,500 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง ป.6