ศบค. เผยสถานการณ์โควิด มาจากต่างประเทศติดเชื้อ 112 ราย ครึ่งหนึ่งตรวจพบเชื้อตั้งแต่ออกจากสนามบิน ภาพรวมเข้าประเทศช่วงธ.ค. 2.7 แสนคน ติดเชื้อทะลุพันราย

วันที่ 30 ธ.ค.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,037 ราย สะสม 2,220,324 ราย หายป่วย 3,115 ราย สะสม 2,165,253 ราย เสียชีวิต 25 ราย สะสม 21,672 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 33,399 ราย มีอาการหนัก 626 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 168 ราย

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 25 ราย มาจาก 17 จังหวัด ได้แก่ กทม. และเชียงใหม่ จังหวัดละ 3 ราย , ขอนแก่น เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 2 ราย และ กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก ลำปาง ตรัง ยะลา ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 15 ราย หญิง 10 ราย อายุ 26 - 93 ปี ค่ากลางอายุ 72 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีและมีโรคประจำตัวรวมกัน 100%

ติดเชื้อเกิน 100 ราย 3 จังหวัด

จังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 ราย มี 3 จังหวัด โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 430 ราย สะสม 439,775 ราย 2.ชลบุรี 304 ราย สะสม 112,713 ราย 3.นครศรีธรรมราช 134 ราย สะสม 47,724 ราย 4.อุบลราชธานี 123 ราย สะสม 22,385 ราย

5.สมุทรปราการ 83 ราย สะสม 132,189 ราย 6.มหาสารคาม 83 ราย สะสม 11,517 ราย 7.ขอนแก่น 80 ราย สะสม 24,232 ราย 8.เชียงใหม่ 67 ราย สะสม 28,991 ราย 9.กาฬสินธุ์ 63 ราย สะสม 10,452 ราย และ 10.ร้อยเอ็ด 62 ราย สะสม 13,673 ราย

20 จังหวัดติดหลักหน่วย

ขณะที่ติดเชื้อเพียงหลักหน่วยมี 20 จังหวัด ได้แก่ นครนายก น่าน จังหวัดละ 9 ราย , นครพนม บึงกาฬ ยโสธร ลำปาง เลย สุรินทร์ หนองคาย จังหวัดละ 8 ราย , ลำพูน 6 ราย , สมุทรสงคราม หนองบัวลำภู อ่างทอง จังหวัดละ 5 ราย , สุโขทัย อำนาจเจริญ จังหวัดละ 4 ราย , แพร่ 3 ราย , ตราด 2 ราย , ชัยนาท พิจิตร สิงห์บุรี จังหวัดละ 1 ราย ส่วนไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง อุทัยธานี และอุตรดิตถ์

ต่างประเทศติด 112 ราย

ขณะที่การติดเชื้อมาจากเรือนจำ 81 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 112 ราย ได้แก่ อังกฤษ 18 ราย , ฝรั่งเศส 14 ราย , สหรัฐอเมริกา 10 ราย , สวิตเซอร์แลนด์ 7 ราย , เยอรมนี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศละ 6 ราย , รัสเซีย โปรตุเกส ประเทศละ 5 ราย , คูเวต สวีเดน คาซัคสถาน ประเทศละ 4 ราย , สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ประเทศละ 3 ราย , เอธิโอเปีย ซาอุดิอาระเบีย มาเลเซีย แคนาดา ฟินแลนด์ ประเทศละ 2 ราย และเชก ตุรกี ไอร์แลนด์ อิตาลี ยูเครน สเปน ฟิลิปปินส์ โอมาน ไนจีเรีย และนอร์เวย์ ประเทศละ 1 ราย

โดยมาทางอากาศทั้งหมด ได้แก่ เข้าระบบ Test&Go 86 ราย แซนด์บ็อกซ์ 16 ราย และเข้าระบบกักตัว 10 ราย ภาพรวมตรวจหาเชื้อพบตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง (Day 0) จำนวน 65 ราย คิดเป็น 58.04% ตรวจหาเชื้อพบช่วงวันที่ 1-3 จำนวน 18 ราย คิดเป็น 16.07% ตรวจเจอช่วงวันที่ 4-7 จำนวน 17 ราย คิดเป็น 15.18% และตรวจพบหลังวันที่ 7 จำนวน 12 ราย คิดเป็น 10.71%

ธ.ค.เข้าประเทศ 2.7 แสน ติดเชื้อ 1,056 ราย

ส่วนผู้เดินทางเข้าประเทศ วันที่ 1-29 ธ.ค. สะสม 270,851 คน ติดเชื้อ 1,056 คน คิดเป็น 0.39% ได้แก่ ระบบ Test&Go 227,604 คน ติดเชื้อ 730 คน คิดเป็น 0.32% แซนด์บ็อกซ์ 37,340 คน ติดเชื้อ 121 คน คิดเป็น 0.32% และกักตัว 5,907 คน ติดเชื้อ 205 คน คิดเป็น 3.47% (กักตัว 7 วัน 1,715 คน กักตัว 10 วัน 3,581 คน และกักตัว 14 วัน 611 คน)

โดยเข้ามาผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 182,392 คน ท่าอากาศยานดอนเมือง 1,636 คน ท่าอากาศยานภูเก็ต 78,401 คน ท่าอากาศยานสมุย 5,930 คน และท่าอากาศยานอื่นๆ 2,492 คน

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 29 ธ.ค. ฉีดเพิ่มขึ้น 455,208 โดส สะสม 103,894,611 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 51,205,920 ราย คิดเป็น 71.1% ของประชากร เข็มสอง 45,928,719 ราย คิดเป็น 63.8% ของประชากร และเข็มสาม 6,759,972 ราย คิดเป็น 9.4% ของประชากรฃ