ปรับตัว-ลงทุน-พัฒนาทักษะ รับมือความท้าทายยุคใหม่
ในยุคที่เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอนาคต งานสัมมนา "Accelerate Thailand ขับเคลื่อนไทยไปเชื่อมโลก" จัดโดย TNN ได้รวบรวมผู้นำจากภาคส่วนต่างๆ มานำเสนอวิสัยทัศน์และแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เวทีโลก
การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทย
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ "ONE FTI" ซึ่งมุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย โดยแบ่งเป็น 3 แกนหลัก: ONE VISION, ONE TEAM, และ ONE GOAL นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังกำหนดนโยบาย FTI เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเดิมและสร้าง 12 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมชีวภาพ
ที่น่าสนใจคือ โครงการ Flagship ที่มุ่งยกระดับ SMEs สู่ Smart SMEs ด้วยแนวทาง 4GO ได้แก่ GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global, และ GO Green ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยเพื่อรับมือกับความท้าทายในยุคโลกาภิวัตน์
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้นำเสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเป้าหมายในการยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางการบินแห่งเอเชีย โดยมีการลงทุนกว่า 120,000 ล้านบาทในการขยายอาคารผู้โดยสาร เพิ่มรันเวย์ และนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้
แผนการพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศ โดยตั้งเป้าที่จะยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิให้ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 10 ปี
การมุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero และการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมาย Net-Zero ภายในปี 2593 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทย 10-15 ปี นอกจากนี้ CPF ยังริเริ่มโครงการ "SME Excellence" เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs และโครงการ Contract Farming เพื่อสนับสนุนเกษตรกร
ความมุ่งมั่นนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น
การพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ได้นำเสนอแผนการยกระดับทักษะดิจิทัลของคนไทย โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Digital Skills for All, Digital-Driven Career, และ Digital Professional พร้อมเสนอมาตรการสนับสนุนทางภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลในภาคเอกชน
แผนการพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักในความสำคัญของการเตรียมความพร้อมกำลังคนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Big Data, Cloud Computing และ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งกำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงาน
--------------------------------
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่นำเสนอในงานสัมมนา เห็นได้ชัดว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืน และการพัฒนาทักษะแรงงานในยุคดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้ก็มาพร้อมกับโอกาสในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
การบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอนาคต ทั้งนี้ ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวและความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการนำแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำในเวทีเศรษฐกิจโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ภาพ TNN