แฟ้มลับ “เอปสตีน” ระเบิดเวลาสั่นคลอน เก้าอี้การเมือง “ทรัมป์”

คดีเจฟฟรีย์ เอปสตีน อดีตนักการเงินผู้มั่งคั่งและอาชญากรทางเพศ เชื่อมโยงกับคนดังและชนชั้นสูงหลายราย แม้เขาเสียชีวิตไปแล้ว แต่แฟ้มลับและหลักฐานที่เกี่ยวข้องยังสร้างแรงกดดันทางการเมืองต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกัน
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ประเด็นทางกฎหมาย แต่กลายเป็น “ระเบิดเวลา” ทางการเมืองที่อาจสั่นคลอนอำนาจและความน่าเชื่อถือของทรัมป์
เจฟฟรีย์ เอปสตีน คือใคร ?
“เจฟฟรีย์ เอปสตีน” คือ นักการเงินผู้มั่งคั่งชาวอเมริกัน เกิดและเติบโตในนิวยอร์ก เดิมเป็นแค่ครูสอนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ในโรงเรียนเอกชน แต่พ่อของนักเรียนคนหนึ่งชื่นชมเขามาก จึงแนะนำให้รู้จักผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแบร์ สเติร์นส์ เอปสตีนจึงได้เข้าทำงานที่นั่น และก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว กระทั่งขึ้นเป็นหุ้นส่วนภายในไม่กี่ปี ก่อนออกมาตั้งบริษัทของตัวเองในชื่อ J. Epstein & Co.
บริษัทของเขาดูแลเงินของลูกค้าระดับมหาเศรษฐี รวมสินทรัพย์กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เอปสตีนร่ำรวยอย่างรวดเร็ว เขาซื้อคฤหาสน์ ฟาร์ม และเกาะส่วนตัว พร้อมเริ่มคบค้ากับดารา นักการเมือง และคนดังจากหลากกลายวงการ
แม้จะเริ่มจากครูธรรมดา สร้างตัวจนมั่งคั่ง แต่เอปสตีนกลับถูกจดจำในฐานะ อาชญากรทางเพศและค้ามนุษย์ หลอกลวงหญิงสาว ส่วนใหญ่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพื่อบริการทางเพศให้กลุ่มชนชั้นสูง เขาถูกจับค้ามนุษย์ในปี 2019 และเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในคุกก่อนการพิจารณาคดี
ด้วยความที่เอปสตีนรู้จักคนดังมากมาย ทำให้คดีนี้เป็นที่สนใจระดับโลก เช่น บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ, เควิน สเปซีย์, ฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ อดีตเจ้าพ่อวงการฮอลลีวูด ผู้ถูกดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศ จนเกิดกระแส #MeToo , และอดีต เจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งถูกถอดยศและกลายเป็นสามัญชน หลังถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดเหยื่อรายหนึ่งของเอปสตีน ซึ่งเธอเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายในเดือนเมษายน 2568
อีกบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องคือ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งสองรู้จักกันมากว่า 15 ปี แต่ภายหลังมีความขัดแย้ง ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทั้งหมด
แฟ้มลับ สะเทือน “ทรัมป์”
ช่วงแรกหลังการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “เอปสตีน” ตัวทรัมป์เอง ก็เคยให้คำมั่นตอนช่วงหาเสียงว่า จะเปิดเผยเอกสารคดี “เอปสตีน” ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เชื่อว่า จะมีรายชื่อคนดังที่มีเอี่ยวกับคดีนี้
แต่หลังเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทรัมป์กลับสร้างความขัดแย้งอย่างหนัก โดยมีการรายงานว่า ฝ่ายบริหารของเขามีท่าทีต้านทานอย่างแข็งขัน และคัดค้านการเปิดเผยเอกสารคดีนี้อย่างชัดเจน จนทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างรุนแรงต่อตัวเขา ไม่เว้นแม้กระทั่ง ฐานเสียง MAGA ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักที่ต้องการให้เขาเปิดโปงกลุ่มชนชั้นสูงที่เกี่ยวข้อง
ระหว่างนั้น หลักฐานที่ตอกย้ำความเชื่อมโยงกับเอปสตีนก็ถูกปล่อยออกมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะ อีเมลที่ระบุว่าทรัมป์ "รู้เรื่องเด็กผู้หญิง" และมีส่วนที่อ้างว่า ทรัมป์ใช้เวลาหลายชั่วโมงกับเหยื่อคนหนึ่งในบ้านพักของทรัมป์ รวมถึงบันทึกที่ชี้ถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดในอดีต ซึ่งสวนทางกับคำกล่าวอ้างของเขาที่ว่าความสัมพันธ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว
แรงกดดันทางการเมืองได้พุ่งสูงขึ้น จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางความแตกร้าวภายในพรรครีพับลิกันและการผลักดันให้เกิดการลงมติในสภาเพื่อบังคับเปิดเผยเอกสาร ทรัมป์จึงถูกกดดันจนต้องกลับลำอย่างฉับพลัน โดยหันมาสนับสนุนให้มีการเปิดเผยเอกสารทั้งหมดในที่สุด
ความพ่ายแพ้ที่หาได้ยาก
การเปลี่ยนใจกะทันหันของทรัมป์ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้น เพราะปกติทรัมป์มักมีอำนาจเหนือฐานผู้สนับสนุนและกำหนดแนวทางของพรรคได้
แต่การตัดสินใจรอบนี้ เกิดขึ้นเพราะหลายคนในพรรค และผู้สนับสนุนต้องการให้ปล่อยเอกสารดังกล่าว แม้ทรัมป์จะเคยคัดค้าน ข่มขู่สมาชิกพรรคบางส่วนที่สนับสนุนให้เปิดเผยแฟ้มคดีนี้ จนถึงขั้นเรียกพวกเขาว่าเป็น “คนเลว” แต่สุดท้ายเขาก็ยอมทำตามความต้องการของฐานผู้สนับสนุน
สำนักข่าว CNN รายงานว่าการตัดสินใจให้โหวตเปิดเผยแฟ้มลับคดีเอปสตีนถือเป็นความพ่ายแพ้และแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของทรัมป์ในสภาที่หาได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงที่เขาต้องเตรียมรับมือการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า การลงมติครั้งนี้จึงอาจถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองเพื่อรักษาฐานเสียงของเขา
ชาวอเมริกัน เชื่อรัฐบาลกำลังปกปิด
แม้จนถึงตอนนี้จะยังไม่มีหลักฐานชี้ว่า “ทรัมป์” มีความผิดทางอาญา แต่เรื่องนี้ก็ส่งผลเสียทางการเมืองต่อเขาไม่น้อย
บทความของ CNN ชี้ให้เห็นว่าการจัดการของฝ่ายบริหารทรัมป์ต่อคดีเอปสตีนก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยและสั่นคลอนอำนาจผู้นำสหรัฐฯ ทั้งความพยายามคัดค้านการเปิดเผยแฟ้มลับ การให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเอปสตีน และการปฏิบัติเฉพาะพิเศษต่อ กิสเลน แมกซ์เวลล์ ทำให้ดูเหมือนว่าทรัมป์พยายามปิดบังบางอย่าง แม้ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น
โพล Reuters-Ipsos พบว่า 57% ของชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับการจัดการของทรัมป์ และ 69% เชื่อว่ารัฐบาลอาจปกปิดรายชื่อลูกค้าของเอปสตีน แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ มีเพียงประมาณหนึ่งในสี่ที่ติดตามอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้สร้างความเสี่ยงทางการเมืองให้ทรัมป์ แม้เขาไม่ผิด แต่การกระทำที่ดูเหมือนปกปิดบางอย่าง ทำให้เกิดรอยร้าวในพรรครีพับลิกัน และทำให้ประชาชนเริ่มไม่ไว้วางใจ และพร้อมจะเชื่อในแง่ลบที่สุดของเรื่องนี้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-48913377
https://www.theguardian.com/us-news/2025/nov/12/jeffrey-epstein-donald-trump-timeline
https://edition.cnn.com/2025/11/13/politics/donald-trump-epstein-political-danger
https://edition.cnn.com/2025/11/17/politics/reverse-course-trump-epstein-files-release-weakness
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
