ทองลงขานรับด์ยีลด์พุ่ง ขณะที่ BoFA คาด เฟดลดดอกฯ ปีหน้า

ทองโลกยังคงทรงตัวในกรอบแนวรับ / ต้าน จากการที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 สู่ระดับ 4.17% จากเดิมที่ 4.00% สืบเนื่องมาจากตลาดพันธบัตรมีมุมมองว่าการที่นายเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจคนสนิทของปธน.ทรัมป์ อาจเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยนายเจ แบร์รี หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกของ JP Morgan ได้กล่าวถึงตลาดได้เริ่มมีพฤติกรรมรับรู้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคตจากความเสี่ยงที่เฟดอาจถูกการเมืองแทรกแซง ซึ่งทำให้เฟดอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยในภายหลัง และทำให้บอนด์ยีลด์ยังทรงตรงตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อทอง 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 99.22 - 99.79 หน่วย ในขณะที่นายอาทิตยา บาฟ (Aditya Bhave) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Bank of America (BoFA) คาดการณ์ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.ปี 2026 เนื่องด้วยประธานเฟดคนใหม่ที่อาจทำให้เฟดเพิ่มความเสี่ยงในการผลักดันนโยบายเข้าสู่โหมดผ่อนคลาย และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในปี 2026 อยู่ในช่วง 3.0% - 3.25% ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 1.14 ตัน รวมสุทธิ 1,049.11 ตัน

ราคาทองโลกได้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,220 ดอลลาร์ และมีการย่อตัวลง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,175 ดอลลาร์ และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งตามกรอบแนวต้านดังกล่าว ภายหลัง แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,150 ดอลลาร์ ทองโลกอาจปรับฐานลงต่อเนื่อง

วันนี้เวลา 20.15 น. สหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรรายสัปดาห์จาก ADP และเวลา 22.00 น. เผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครใหม่จาก JOLTS  (ล้านตำแหน่ง) เดือนก.ย.

ทองโลกอยู่ในระยะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ / ต้าน จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 4,220 ดอลลาร์ และซื้อสะสมหากราคาลงทดสอบแนวรับที่ 4,175 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 4,150 ดอลลาร์ ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน

ราคาทองในประเทศมีการแกว่งตัวขึ้นลงตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงแนะนำทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 63,800 และทยอยซื้อตามแนวรับที่ 63,150 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 62,900 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน