โป๊ปฟรานซิสวอนชาติร่ำรวยอย่ากักตุนวัคซีนโควิด-19

วันนี้ ( 20 ส.ค. 63 )สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ตรัสที่สำนักวาติกันว่า กลุ่มประเทศร่ำรวย ไม่ควรกักตุนวัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด-19 และเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ หากชาติร่ำรวยทำเช่นนี้ หลังทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 22 ล้าน 5 แสนคน และเสียชีวิตกว่า 7 แสน 8 หมื่นราย

ด้าน นาย”ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส” ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า โลกจำเป็นต้องสกัดกั้นวัคซีนชาตินิยม เพื่อเป็นหลักประกันการได้รับวัคซีนต่อสู้โควิด-19 อย่างทั่วถึงและยุติธรรม เพราะ วัคซีนโควิด-19 จะต้องมีการจัดสรรให้แก่ทุกประเทศที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาวัคซีน ภายใต้การควบคุมขององค์การอนามัยโลก และโลกจะต้องไม่มีวัคซีนชาตินิยม ซึ่งนี้เป็นเหตุผลที่องค์การอนามัยโลก ทำงานกับรัฐบาลประเทศต่างๆ และภาคเอกชนหลายแห่ง เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างยุติธรรม 

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ยังเรียกร้องประเทศต่างๆ ให้ร่วมมือและช่วยเหลือกัน เพื่อจัดการปัญหาโรคระบาด เพราะตอนนี้ ไม่มีประเทศใดปลอดภัยจากโควิด-19 อย่างแท้จริง ส่วนที่เยอรมนี มีรายงานว่า กลุ่มคนที่อยู่ในเยอรมนี จะได้รับวัคซีนโควิด-19 ในช่วงต้นปีหน้า เพราะขณะนี้ บริษัทผู้ผลิตยามากกว่า 6 แห่งทั่วโลก ดำเนินการทดลองในระดับคลินิคแล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน 

ทางด้าน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลีย ลงนามซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับบริษัทยาอังกฤษ และจะฉีดให้พลเมืองฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมยืนยันว่า มีเพียงพอกับประชากรออสเตรเลีย 25 ล้านคน หากผลการทดลองวัคซีนประสบความสำเร็จ ก็หวังว่าจะมีวัคซีนให้ประชาชนได้ในต้นปีหน้า ขณะเดียวกันออสเตรเลียพร้อมทำข้อตกลงวัคซีนกับแหล่งอื่น เช่น มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์และซีเอสแอลของออสเตรเลีย และจะพูดคุยเรื่องจัดสรรวัคซีนให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินีและฟิจิ